ข้อความต้นฉบับในหน้า
ทรงเป็นผู้จักรรรม คือ ทรงเป็นผู้มีญาณหยั่งรู้เหตุ ได้แก่ หยั่งรู้เท็จจริงแต่ละชนิดที่ทำให้เกิดผล รู้ทุกขุมทัศ เหตุให้เกิดทุกข์ รู้ธรรมนบรรชนทางดับทุกข์ หยั่งรู้ว่านักสงคราม นอกจากนี้กลุ่มนี้ภาคีทรงเป็นผู้ประมาณ เป็นผู้ประมาณในการรับและการปฏิบัติธรรม
ทรงเป็นผู้จัดกาล คือ ทรงเป็นผู้เวลา รูเวลามา รู้เวลาแสดงธรรม รู้เวลาจากาเผยแผ่ไปชนบท
ทรงเป็นผู้ประชุม คือ ทรงเป็นผู้ธรรมชาติของกลุ่มคนทั้ง ๘ กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มมิตร กลุ่มพฤกษ์ กลุ่มคนดี กลุ่มนักบวช กลุ่มเทวทัศน์ชาติวุฒิอา กลุ่มเทวดาขั้นดีกรี กลุ่มเทวตขั้นนิมนต์ กลุ่มเทวดาขั้นพรม
ผลแห่งการธมุนธรรมจักร ผลที่ปรากฏให้เห็นเป็นรูปธรรมก็คือ
๑) มีผู้อาศัยอิงสัจ ๔ ตามมาเป็นจำนวนมาก
๒) การเผยแผ่ธรรมคำสอนจบรจางออกไปทั่วผืนผืน
๓) บังเกิดปฏิรูปเทสรืนในแต่ละท้องถิ่นของชุมพฤวีบได้แก่ อาวาสเป็นสบายอาหารเป็นสบาย บุคคลเป็นสบาย ธรรมะเป็นที่สบาย
๔) พระพุทธสถานครองใจของมนุษย์และเทวดา เกิดเป็นเขตแดนแห่งการบรรลุธรรมขึ้นภายในใจของสรรพสัตว์ เป็นดินแดนที่มองไม่เห็น ดังกำพระองค์ทรงหมุนธรรมจักรด้วยพระปริชาสามารถส่วนพระองค์เช่นนี้ จึงทำให้ผู้อื่น แจ้งแจ้งในสิ่งที่เป็นอันน่า ความรู้เรื่องการปฏิบัติธรรมมองต ่อ จึงแผ่ขยายออกไป และทำให้สาวก รุ่นใหม่ ๆ เข้ามาศึกษาธรรมะกับพระองค์เพิ่มมากขึ้น (อ่านต่อฉบับหน้า) พฤษภาคม ๒๕๖๐ อยู่ในบุญ ๓๗