ข้อความต้นฉบับในหน้า
เจริญก้าวหน้า ทรงฝีมือมีต้องรู้จักรักษาไม่ให้หมดไปโดยได้เหตุ ได้แก่
• ละกรรมกิเลส ๔ ประการ ได้แก่
๑. ข้อแรก ไม่มัว ไม้กล ไม่ประพฤติผิดในกาม ไม่พูดเท็จ
๒. ไม่ทำบาปกรรมด้วยอคติ ๔ ประการ ได้แก่ ลำเอียงเพราะรัก โกรธ หลง หรือกลัวภัย
๓. ไม่เสพทางเสื่อมแห่งทรัพย์สมบัติ คือ อบายมุข ๖ ได้แก่ การดื่มสุราเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท การเทียวกลางคืน การเที่ยวดูมหรสพ การเล่นการพนัน การคบคนชั่วเป็นมิตร และความเกียจคร้าน สิ่งเหล่านี้แต่โทษ ไม่ก็ประโยชน์ สังคมที่รุ่งเรืองไม่ว่าจะเป็นระดับอำนาจ ตระกูล บริษัท หรืออื่นใดก็แล้วแต่ จะเสื่อมก็เพราะยึดเกี่ยวกับบายนุม ๆ เหล่านี้ หมวดที่ ๒ การเลือกคน เมื่อเกิดเป็นคนก็ต้องมีเพื่อน พระ-
สัมมาสัมพุทธเจ้าทรงกำหนดมาตรฐานไว้ว่า เมื่อจะคบใครก็ต้องคบให้ดี เลือกคนดี โดยก่อนอื่นก็ต้องรู้จักแยกแยะระหว่างคนดี กับคนชั่ว ขณะเดียวกันก็ต้องฝึกตัวเองให้เป็น มิตรแท้ต่อคนอื่นด้วย เพราะถ้าตนเองยังฝึก ตนไม่ได้มาตรฐานของมิตรแท้ ก็ลงไม่มีคนดี คนไหนอยากจะคบหาเราเป็นเพื่อนด้วย
มิตรเที่ยม คือ คนที่ไม่ควรคบ เพราะ มีพฤติกรรมที่ไม่บ่นว่าเป็นมิตร ใครคนทา สมา ด้วยก็แต่จะทำให้เสื่อมลงและนำภัย มาให้บ้จสิ้น
มิตรเที่ยม จัดเป็น ๑ ในบางบุรุ ๖ แบ่งได้ ๔ ประเภท ได้แก่ ๑) คนปลอจก ๒) คนดีเท็จ ๓) คนหัวประจบ ๔) คนชักชวน ในทางจินหย ๙
มิตรแท้ คือ มิตรที่ควรคบ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแบ่งกลุ่มมิตรเท็จไว้ ๔ ประเภท ซึ่งมีลักษณะตรงข้ามกับมิตรเทียม ได้แก่ ๑) มิตรมีปกะ ๒) มิตรร่วมสุขร่วมทุกข์