ข้อความต้นฉบับในหน้า
ถ้าหากเราปรารถนาอยากเตือนใครจะพูดอย่างไรให้เขารับฟัง ?
ต้องใช้คำอย่างสุภาพที่สุด เพราะทุกคนต้องการความภูมิใจในตัวเอง พอมีใครมาบอกว่าตัวเองบกพร่องตรงไหน ใหม่ ๆ จะเหมือนมีคำแพ้กันไวก่อน เพราะมันกระทบกระเทือนก็ได้ตัวเอง เพราะฉะนั้นถ้ากระแทกจะไปไหนก็ต้องระวังให้มาก ควรจะบอกให้เขากระเทือนใจเขา คนเราวามีใครมาเตือนก็เท่ากับเขาอยู่ในทางบวก ๆ แรงแล้ว คือว่านับรับคำแนะนำ หรือจะเกิดวิริยาปกป้องตัวเองแล้วลากลับพูดดีเรื่องนี้ก็ถึงวัดเราเมื่อประมาณ 30 กว่าปีแล้ว ตอนนั้นนวดม้ายังเรียนอยู่ และมารับบุญเป็นฝ่ายต้อนรับวัดในวันอาทิตย์ เจอฤาโยมบุญฑรี เขามาวัดครั้งแรก ไม่รู้ว่ามีเมียบาทร่วมบุญรึเปล่า ถ้าเราพรอวดพราดไปบอกว่า “คุณ ที่วัดคาบุญรึไม่ ระเบียบหรือไง” เขาอาจจะกรอแล้วไม่บ่อยก็เลยตลอดชีวิตเป็นได้ แต่หลวงพ่อสอนให้เดินเข้าไปยิ้มให้ก่อน เข้าไปด้วยความอ่อนน้อม แล้วบอกเขาดี ๆ ว่า “ขอโทษนะครับ พอทีวีว่ามีระเบียบไม่ได้สวมบุญรึไม่ เดี๋ยวมอเอาไปทิ้งให้ค่ะครับ” อย่างนี้จะสบายใจ ไม่เสียความรู้สึก เพราะจะไปนะแนะนำคนอื่น ๆ เราอย่าไปกระทบกระเทือนก็ได้ ให้แนะนำด้วยความอ่อนน้อม ไม่ส่งสบุนแบบผู้ใหญ่มองเด็กในมุมกลับกัน ถ้าเราเป็นผู้ให้น้อย ผู้ใหญ่มันก็ดีแล้ว พอผู้ใหญ่มาเตือน ยกใหญ่เรามีคำว่า “ชินกลเป็นมะ” เวลาไปไหน พอเห็นนกแล้วชี้บอกว่าไม บริเวณว่า ใช้ครูนาย พอชีไปที่ต้นไม้บ้างว่า นกบอกพลอยพยั่่นต้าน เป็นแถว พอผู้ใหญเจออย่างนี้น้อย ๆ ก็รื่น พอเจอใครชัดคอเข้าที่ขุดดิ่ง เพราะไม่คุ้น
ถ้าไปในประวัติศาสตร์ประเทศจีน จะพบว่าช่องเต้สร้างผลงานเป็นที่เล่าขานมาเป็นพัน ๆ ปี ส่วนใหญ่เป็นผู้หน่อรับคำเตือนของคนอื่น เช่น พระเจ้าจิ้งฮ่องเต้ ผู้สถาปนาราชวงค์สมัยแห่งชิง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่แผ่นดินจีนรุ่งเรืองมาก ขยายอาณาเขตว่างไกล ราชวงค์อยู่มายาวนานหลายร้อยปี ทำให้คนจีนมีความภูมิใจถึงขนาดเรียกตัวเองว่า ถิ่นเทียน แปลว่า คนราชวงค์ตอน
ตอนพระเจ้าจิ้งไท่งขึ้นเป็นช่องตันใหม่ ๆ ท่านศึกษาประวัติศาสตร์ว่ามีราชวงศ์เก่า ๆ สมัยสายไปเป็นพระช่องใต้ฟังใคร ขุนางก็ไม่ผิดกด เลยพากันลงเหวมด พระองค์เลยตั้งเว่ยเจิ่งฉาลาดมาก ๆ มาดำรงดำรงตำแหน่งขุนางดำด่าน ทำหน้าที่คอยคัดค้านยกนางคัดค้าน ทำหน้าที่คอยด่าคัดค้านช่องเตเลา ช่องเตเล่าเสนออะไรในที่ประชุม ถ้าความคิดเข้าที่ก็แล้วไป ถ้าไม่เข้า ก็ยำเข้าน่า ขุนางคัดค้านยกมือเลย บอกว่า ไอเดียพระองค์ไม่สมควรพระเจ้าจิ้งให้ทนแมงก็หยุดดึงก็เหมือนกัน แต่พระองค์กล้ลำกลีฝนทน จนถึงวันปลายชีวิต พระองค์บอกว่า ในชีวิตของพระองค์นั้นมีกระจกอยู่ 2 บาน หนึ่งคือกระจกน้องช่องหน้า อีกบานคือเว้ยจิ่งมันและที่ช่องให้เห็นสิ่งที่พระองค์ไม่เห็น ทำให้พระองค์ไม่ดึงจึงสร้างราวศิลป์ให้เจริญในเรื่องขนาดที่จีนภูมิใจเป็นพัน ๆ ปีได้ อีกคนคือจักรพรรดิเฉียนหลงในสมัยราชวงศ์ พระองค์มีอัจฉราหนับตำหนาที่ฉนึ่งเป็นคนฉลาดและยิ้มมาก ตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดี เวลาเข้าเฝ้าช่องเต้ ขุนางคนอื่นก็สบาย ๆ ช่องเต้าบางไรดีค่ะ แต่จักรพรรดิเฉียนหลงนี้มีเรื่องมารบกันทุกวัน มณฑลนั้นก็เกิดอุทุกภัยจากบ้ านกันเดือดร้อนที่มีใครระบาดลง ที่นั่นก็มีปัญหา ทุกวันมิเช