ข้อความต้นฉบับในหน้า
หลังการเดินทางมายุกรุงเทพมหานคร แล้ว ด้วยการศึกษาค้นคว้าอย่างต่อเนื่องทั้งทาง ปฏิบัติและปฏิบัติเป็นเวลาหลายปี พระเดช-พระคุณหลวงปู่ ท่านไม่เพียงแต่จะได้ศึกษา มูลจิฑาจานะอย่างทบ T ไปนานถึง ๓ จบ พระธรรมบท ๘ ภาค คัมภีร์มังคันตทานี และ สารสงเคราะห์เท่านั้น การหมุนเข้าสร้างการฝึก สมรินจากพระวิมาลสานาฏในหลายๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น ท่านเจ้าคุณสังวรางค์ เถระ (เอี่ยม) วัดราชสิงขราม พระคุณาน- วิถี (ไฉ) วัดพระเชตุพน พระอาจารย์สิงห์ วัดละคะนี ฯ นั้น นำจะทำให้พระเดชพระคุณ- หลวงปู่ ท่านได้ค้นพบความหมายของคำว่า “อวิชชาปัจจย" ในแง่ของนาม (Definition) นั้นนานแล้ว แต่การที่นังคงศึกษา ค้นคว้า ต่อไปอีกอย่างไม่ลดละนั้น ผู้เขียนเชื่อว่า น่าจะเป็นเพราะท่านอาจจยายขอบเขตหรือ ปริมาณของความรู้ของท่านเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไปแล้วหลายเท่า ดังมีส่วนสำคัญให้ท่าน ได้พบข้อมูลปฐมภูมิเดิม (Primary Source) ที่สำคัญยิ่งกว่าดเดิมอีกหลายเท่าตัวด้วยเช่นกัน ถ้าเราจะเปรียบว่า การตั้งใจบรรพษา อุปสมบทเพื่ออุทิศชีวิต ไว้ในพระพุทธศาสนา ก็ได้ การตัดสินใจเดินทางมาสืบค้นความ หมายของคำว่า "อวิชชาปัจจย" และการตั้งใจ ศึกษาหาความรู้ทั้งทางปฏิบัติและปฏิบัติกา คณาจารย์หลายท่านของพระเดชพระคุณ- หลวงปู่ ก็ด้านนี้ เป็นเสมือนกับการรวบรวม หลักฐานใน "การศึกษาค้นคว้า ความเป็นจริง ของชีวิต" แล้ว ประเด็นการวิจัยหลักของท่าน ก็ย่อมจะไม่พ้นเรื่องของคำถามที่ว่า “ เกิดมา ทำไม” “ตายแล้วไปไหน” “อะไรคือความเป็นจริง ของชีวิต” ไปได้ ซึ่งาหากยิ่งทำความเข้าใจ