ชีวิตหลังความตายและก่อนมาเกิด  วารสารอยู่ในบุญประจำเดือน กันยายน พ.ศ.2560 หน้า 88
หน้าที่ 88 / 119

สรุปเนื้อหา

บทความนี้พูดถึงความเข้าใจเกี่ยวกับความตายในมุมมองต่าง ๆ และสภาพจิตใจของบุคคลในช่วงใกล้ตาย โดยนำเสนอข้อมูลตามหลักพระพุทธศาสนาที่แสดงให้เห็นว่า แม้ว่าสมองตาย แต่ใจยังไม่ตาย ซึ่งนำไปสู่การอภิปรายถึงปรากฏการณ์ต่าง ๆ เกี่ยวกับความตาย รวมถึงกรณีพิสูจน์ทางการแพทย์เกี่ยวกับการมีชีวิตอยู่ในสภาพพิเศษ และความเชื่อที่หลากหลายเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนและหลังความตาย

หัวข้อประเด็น

-ความตาย
-สภาพจิตใจ
-พระพุทธศาสนา
-เมตาบอลิซึม
-ปรากฏการณ์ความตาย

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ข้อคิดอรอบตัว เรื่อง : พระครูปลัดสวน สวนโพธิคุณ (สมชาย ฐานวุฑฺฒโน) ชีวิตหลังความตายและก่อนมาเกิด ขณะใกล้ตาย สภาพจิตใจของคนเราเป็นอย่างไรบ้าง? เรื่องความตาย ชาวโลกมีความเห็นต่างกัน ๓ แบบ บางคนบอกว่า ถ้าสมองตาย (สมองหยุดทำงาน) ก็ถือว่าตาย กรณีนี้เป็นทางพระพุทธศาสนาอธิบายยังไม่ตาย เพราะสมองเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ใจเขารับรู้ภายใน เขายังไม่ตาย กรณีที่สองคือสมองหยุดชักตีวกึ๋ยอึ่มมม ประเด็นนี้ก็อิงมั่งโลกก็อว่าตายแล้ว แต่เคยมีข่าวว่าเราร่างใส่เสียงแล้วสวดไปวัน วัน อยู่ ๆ ก็ อากาศสั่นลมส่วนใหญ่ ๙๙.๙๙ เปอร์เซ็นต์คือความตาย ทางการแพทย์อธิบาว่า หายใจเพียงไม่กี่นาทีตายแล้ว สมองขาดออกซิเจนไปเลี้ยงก็ต้องตายแล้ว แต่มีบางกรณี แต่เกิดการชะงักบางส่วน เราลองนึกถึงแต่คำศิล ทำไมแต่คำศิลอยู่ได้นานเดือน หรือพากนุขอในหน้าเล็กน่า จิ๊บเป็นเดือน ๆ อย่างนี้คือการลงเมตาบอลิซึมทางร่างกายจนเหลือเท่าที่สุด จนกระทั่งความชมของออกซิเจนผ่านผิวหนังก็พอหล่อเลี้ยงให้เซลล์ต่าง ๆ ไม่ตาย ยังคงสภาพอยู่ได้ ก็ในแบบนี้ก็อยู่ในภาวะที่คล้าย ๆ กัน คือ เป็นภูมิเกิดภาวะพิเศษที่ตอนเมตาบอลิซึมของเขาดำที่ที่สุดออกซิเจนเข้าไปบา ๆ มอาจจะไม่บาดทีเดียว แต่น้อยกว่าปกติอย่างนี้เลย คำว่าผิดเกิดภาวะพิเศษที่ตรงเมตาบอลิซึมของเขาดำที่ที่สุดออกซิเจนเข้าไปบา ๆ มอาจจะไม่บาดทีเดียว แต่น้อยกว่าปกติอย่างนี้ ก็อยู่ในสภาพที่คนตายแล้วกันบ้าง แต่ความจริงมนีมีเดินอยู่ อย่างเบาบางมาก รวมทั้งได้รับออกซิเจนทางผิวหนังด้วย ก็เลยอยู่ได้ แต่มีเพียงหนึ่งในล้านควบมาถึงกรณีคนที่ตายแล้วกันบาง
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More