ข้อความต้นฉบับในหน้า
ข้อคิดอรอบตัว
เรื่อง : พระครูปลัดสวน สวนโพธิคุณ (สมชาย ฐานวุฑฺฒโน)
ชีวิตหลังความตายและก่อนมาเกิด
ขณะใกล้ตาย สภาพจิตใจของคนเราเป็นอย่างไรบ้าง? เรื่องความตาย ชาวโลกมีความเห็นต่างกัน ๓ แบบ บางคนบอกว่า ถ้าสมองตาย (สมองหยุดทำงาน) ก็ถือว่าตาย กรณีนี้เป็นทางพระพุทธศาสนาอธิบายยังไม่ตาย เพราะสมองเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ใจเขารับรู้ภายใน เขายังไม่ตาย กรณีที่สองคือสมองหยุดชักตีวกึ๋ยอึ่มมม ประเด็นนี้ก็อิงมั่งโลกก็อว่าตายแล้ว แต่เคยมีข่าวว่าเราร่างใส่เสียงแล้วสวดไปวัน วัน อยู่ ๆ ก็ อากาศสั่นลมส่วนใหญ่ ๙๙.๙๙ เปอร์เซ็นต์คือความตาย ทางการแพทย์อธิบาว่า หายใจเพียงไม่กี่นาทีตายแล้ว สมองขาดออกซิเจนไปเลี้ยงก็ต้องตายแล้ว แต่มีบางกรณี
แต่เกิดการชะงักบางส่วน เราลองนึกถึงแต่คำศิล ทำไมแต่คำศิลอยู่ได้นานเดือน หรือพากนุขอในหน้าเล็กน่า จิ๊บเป็นเดือน ๆ อย่างนี้คือการลงเมตาบอลิซึมทางร่างกายจนเหลือเท่าที่สุด จนกระทั่งความชมของออกซิเจนผ่านผิวหนังก็พอหล่อเลี้ยงให้เซลล์ต่าง ๆ ไม่ตาย ยังคงสภาพอยู่ได้ ก็ในแบบนี้ก็อยู่ในภาวะที่คล้าย ๆ กัน คือ เป็นภูมิเกิดภาวะพิเศษที่ตอนเมตาบอลิซึมของเขาดำที่ที่สุดออกซิเจนเข้าไปบา ๆ มอาจจะไม่บาดทีเดียว แต่น้อยกว่าปกติอย่างนี้เลย คำว่าผิดเกิดภาวะพิเศษที่ตรงเมตาบอลิซึมของเขาดำที่ที่สุดออกซิเจนเข้าไปบา ๆ มอาจจะไม่บาดทีเดียว แต่น้อยกว่าปกติอย่างนี้ ก็อยู่ในสภาพที่คนตายแล้วกันบ้าง
แต่ความจริงมนีมีเดินอยู่ อย่างเบาบางมาก รวมทั้งได้รับออกซิเจนทางผิวหนังด้วย ก็เลยอยู่ได้ แต่มีเพียงหนึ่งในล้านควบมาถึงกรณีคนที่ตายแล้วกันบาง