ข้อความต้นฉบับในหน้า
อดีตเคยร้างมานานนับพันปีเหล่านั้นกลับมา
รุ่งเรืองเป็นบุญสถานแหล่งสั่งสมบุญของ
สาธุชนอีกครั้ง ท่านได้กล่าวเปิดใจถึงความ
ตั้งใจและแรงบันดาลใจในการพัฒนาวัดทั้ง
๕ ว่า
“ก่อนที่จะรื้อฟื้นวัดต่างๆ ที่ร้างไปแล้ว
นั้น ต้องพูดคุยกับโยมที่อาศัยอยู่ให้เข้าใจ
ก่อนว่าแผ่นดินตรงนี้มีความหมาย เป็นวัดที่
เคยรุ่งเรืองมาก่อน เราน่าจะมาร่วมใจกัน
พัฒนาวัดในประวัติศาสตร์นี้ให้เป็นที่สร้างบุญ
ให้คนมากราบไหว้ ให้เขามีพระรัตนตรัยเป็น
ที่พึ่ง ซึ่งกว่าจะสำเร็จก็ต้องใช้ความพยายาม
มากเช่นกัน อาตมานั้นนึกถึงบรรพชนที่เขามี
จิตใจที่งดงาม ตั้งใจสร้างวัดวาอารามให้ชน
รุ่นหลังได้ศึกษาคำสอนของพระพุทธองค์
อาตมาไม่อยากเห็นคนในรุ่นปัจจุบันลืม
ประวัติศาสตร์ที่ดีเหล่านี้ จึงอยากต่อประวัติ
ศาสตร์ไม่ให้ขาดตอน มิฉะนั้นเราจะไม่ทราบ
เลยว่าเมืองเชียงใหม่ เมื่อ ๗๐๐ ปีที่ผ่านมา
มีคำสอนที่ดีๆ ในพระพุทธศาสนาและเคย
เจริญรุ่งเรืองมาแล้ว ดังนั้นในปัจจุบันจึงต้อง
ต่อประวัติศาสตร์ให้ติด และถ้าไม่รื้อฟื้นวัด
เหล่านี้ ก็จะมีผู้ที่อยากนำที่ดินไปหาผล
ประโยชน์ต่างๆ ในปัจจุบันยังมีวัดร้างใน
จังหวัดเชียงใหม่เป็นร้อยวัด น่าเป็นห่วงมาก”
วัดจำนวน ๕ วัด ในจังหวัดเชียงใหม่
ที่พระราชสิทธาจารย์ ท่านตั้งใจพัฒนาจาก
วัดร้างให้เป็นวัดรุ่ง คือ วัดดอยสัพพัญญู
วัดโลกโมฬิ วัดเจ็ดลิน วัดเชียงโฉม และวัด
พระธาตุสบฝาง ท่านเล่าให้ฟังถึงความเป็น
มาและการพัฒนาของแต่ละวัดอย่างย่อๆ ว่า
ck J ๒๐