ข้อความต้นฉบับในหน้า
อารักขาด้วยการก่อสร้างกำแพง เพื่อไม่ให้สัตว์ บังเกิดความปีติใจมาก ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ก็
ร้ายหรือผู้ไม่หวังดี เข้ามาก่อกวนความสงบ
สร้างที่พักอาศัยให้ญาติโยมที่ตั้งใจมาปฏิบัติธรรม
ภายในวัดได้จัดแบ่งเขตเป็นสัดส่วน จากนั้นจึงได้
มุ่งมั่นสั่งสมบุญเรื่อยมา ครั้นละสังขารแล้ว ได้
ประสบกับผลบุญที่เกิดจากการซื้อที่ดินเพื่อสร้าง
สังฆารามในครั้งนั้น ตรงตามพุทธพยากรณ์ทุก
ประการ จนกระทั่งมาถึงภพชาติสุดท้ายท่านได้
ถวายภัตตาหารแด่พระขีณาสพจำนวน 9,000 รูป
โดยมีพระปทุมุตตรสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นประมุข
เมื่อพระบรมศาสดาทรงฉันเสร็จ พราหมณ์
ได้กราบทูลว่า “อารามชื่อโสภณะนี้ ข้าพระองค์
ชื้อด้วยทรัพย์ที่แสวงหามาตลอดทั้งชีวิต ซื้อที่ดิน
และทุ่มเทสร้างขึ้นเพื่อหวังบุญเป็นที่ตั้ง ด้วย
อานิสงส์แห่งการถวายสังฆารามในครั้งนี้ ขอให้
ข้าพระองค์ ได้เป็นภิกษุผู้ทรงพระวินัยใน
อนาคตกาลด้วยเถิด”
พระบรมศาสดาทรงพยากรณ์ว่า “ผู้ใดได้
มอบถวายสังฆารามที่สร้างเรียบร้อยแด่
พระพุทธเจ้า เราตถาคตกล่าวสรรเสริญเขาผู้นั้น
จตุรงคเสนา คือ พลช้าง พลม้า พลรถ และ
พลเดินเท้า จักแวดล้อมผู้นั้นอยู่เป็นนิจ เครื่อง
ดุริยางค์หกหมื่นและกลองทั้งหลาย จักประโคม
ห้อมล้อมผู้นี้อยู่เป็นนิจ นารีแปดหมื่นหกพันนาง
ตกแต่งงดงาม มีผ้าและอาภรณ์อันวิจิตร สวม
สอดแก้วมณีและกุณฑล มีหน้าแฉล้ม ยิ้มแย้ม
ตะโพกผึ่งผาย เอวเล็กเอวบาง จะแวดล้อมผู้นี้
อยู่เป็นนิจ ผู้นั้นจักรื่นเริงใจอยู่ในเทวโลกเป็นเวลา
๓๐,๐๐๐ กัป จักเป็นท้าวสักกะเสวยเทวรัชสมบัติ
9,000 ครั้ง เป็นพระเจ้าจักรพรรดิในแว่นแคว้น
9,000 ครั้ง เสวยราชสมบัติอันไพบูลย์ในแผ่นดิน
นับครั้งไม่ถ้วน ในอีกแสนกัปแต่กัปนี้ไป เธอจักได้
เป็นสาวกของพระโคตมพุทธเจ้า ได้ฉายานามว่า
อุบาลี เธอจักเป็นผู้ทรงพระวินัย ดำรงไว้ซึ่งพระ
ศาสนาของพระชินเจ้า”
เมื่อพราหมณ์สุชาตได้ฟังพุทธพยากรณ์แล้ว
ฟ
ออกบวชเป็นพระเถระชื่อว่าอุบาลี ได้เป็นพระ
อรหันต์ผู้เป็นเอตทัคคะคือเลิศกว่าภิกษุทั้งหลาย
ในด้านทรงจำพระวินัย
เราจะเห็นได้ว่า บุญทั้งหลายที่ได้ทำเอาไว้
อย่างดีแล้ว สามารถทำความปรารถนาที่เรา
ทั้งหลายต่างตั้งใจเอาไว้ให้กลายเป็นจริงได้ ถ้า
หากตั้งใจทำตามมโนปณิธานอย่างแน่วแน่ ขอ
เพียงไม่ย่อท้อ ไม่สิ้นหวัง มีความมานะบากบั่น
สั่งสมบุญกันเรื่อยไป สักวันหนึ่งก็จะสมปรารถนา
นอกจากนี้ ท่านพระอานนท์เถระยังเป็น
ตัวอย่างของยอดนักสร้างบารมี ผู้ที่ได้ถวาย
วิหารเป็นสังฆทานแด่ภิกษุสงฆ์ ด้วยอานิสงส์นั้น
ทำให้ท่านเป็นผู้ที่ได้ใกล้ชิดกับพระพุทธองค์มาก
ที่สุด ได้รับยกย่องว่าเป็นยอดของภิกษุผู้เป็น
พุทธอุปัฏฐาก แล้วยังเป็นพหูสูตอีกด้วย ปฏิจจ
สมุปบาทธรรม แม้เป็นธรรมที่ลึกซึ้งยากต่อการ
เข้าใจก็ดูเหมือนเป็นธรรมที่ง่ายสำหรับท่าน ที่
เป็นเช่นนี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะว่า ในอดีตท่านได้
เคยได้ซื้อที่ดินด้วยทรัพย์ 900,000 กหาปณะ
ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนเงินที่แพงมากในสมัยนั้น
แล้วบริจาคเงินอีก 900,000 กหาปณะเพื่อสร้าง
วิหารถวายแด่ภิกษุสงฆ์
ตั้งแต่นั้นมาจึงตั้งใจทำความดีตลอดแสนปี
เมื่อละจากอัตภาพนั้นแล้ว ท่านเวียนวนอยู่ใน
สุคติภูมิอย่างเดียว ภพชาติสุดท้ายทรงถือกำเนิด
เป็นพระโอรสของพระเจ้าอมิโตทนะ และได้เป็น
สหชาติ คือประสูติในเวลาเดียวกันกับพระผู้มี
๐ ฟุต ๓๑