การนำธุรกิจอบายมุขเข้าตลาดหลักทรัพย์ วารสารอยู่ในบุญ ประจำเดือน กรกฏาคม พ.ศ.2548 หน้า 57
หน้าที่ 57 / 96

สรุปเนื้อหา

ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ ได้มีการถกเถียงเกี่ยวกับการนำธุรกิจอบายมุขเข้าตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งสร้างความสับสนระหว่างเศรษฐกิจกับศีลธรรม หลวงพ่อได้ให้ข้อคิดว่าความดีและเศรษฐกิจควรไปด้วยกัน โดยที่ทั้งสองอย่างนี้มีความสำคัญ หากเศรษฐกิจดีแต่ไร้จิตใจเขียนบทความต่อในทางที่เป็นลบ และอธิบายความหมายของคำว่าอบายมุขว่าเป็นปากทางแห่งความฉิบหายและทำให้เข้าใจได้ถึงปัญหานี้.

หัวข้อประเด็น

-การเผชิญหน้ากับศีลธรรม
-ความสัมพันธ์ระหว่างเศรษฐกิจและจิตใจ
-ความหมายของอบายมุข
-การถกเถียงเรื่องธุรกิจในสังคมไทย

ข้อความต้นฉบับในหน้า

2 หลวงพ่อตอบปัญหา พระภาวนาวิริยคุณ ในฐานะที่ประเทศไทย เป็นเมืองพุทธ หยุด เบียร์เหล่า หยุด เบียร์เหล่า การนำธุรกิจที่เป็นอบายมุขเข้าตลาดหลักทรัพย์ สมควรหรือไม่ ถาม ตอบ ปัจจุบันมีการถกเถียงกันมาก ในเรื่องการนำธุรกิจที่เป็น อบายมุขเข้าตลาดหลักทรัพย์ จนทําให้ประชาชนเกิดความสับสน ระหว่างเรื่องของเศรษฐกิจกับเรื่องของศีลธรรม ในฐานะที่ ประเทศไทยของเราเป็นเมืองพุทธ ขอความเมตตาหลวงพ่อช่วย ให้ข้อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยเจ้าค่ะ ในเรื่องของเศรษฐกิจกับเรื่อง ของจิตใจนั้น ๒ อย่างนี้ ต้องให้ ควบคู่กันไปเสมอคือ เศรษฐกิจต้องดี และจิตใจ ก็ต้องสมบูรณ์ ด้วยศีล ด้วยธรรม ถ้าจะเอาเศรษฐกิจนำหน้า โดยไม่คำนึงถึง จิตใจ ก็เท่ากับบอกว่า ความร่ำรวยสามารถช่วย ให้เป็นคนดีได้ในเวลาเดียวกัน คนดีที่ยากจนขัดสน ก็ไม่สามารถจะรักษาความดีของตนเอาไว้ได้ แต่ความจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้น เพราะไม่ ว่าจะเป็นคนรวย หรือเป็นคนจนก็ตาม ถ้าไม่มี ศีลธรรมอยู่ในใจแล้ว เขาก็พร้อมที่จะทำความ เลวด้วยกันทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น เราต้องมาทำความเข้าใจกับ คำว่า “อบายมุข” กันเสียก่อน อบาย แปลว่า ปราศจากความเจริญ หรือ ว่า ความฉิบหาย มุข แปลว่า ด้านหน้า หรือว่า ปากทาง อบายมุข จึงแปลว่า ปากทางแห่งความ ฉิบหาย คือ เรามองตัวของมันไม่เห็น ว่าฉิบหาย ขนาดไหน แต่เรารู้ว่า มันเป็นปากทางแห่งความ ฉิบหาย เหมือนอย่างคุกที่เขาใช้ขังนักโทษ ในคุก มีความโหดร้ายอย่างไรเราไม่เห็น เราเห็นแต่ว่า ที่ปากทางเข้าคุกนั้น มีคนเดินเข้า คนเดินออก
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More