ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมหาธารา
วารสารวิชาการทางพระพุทธศาสนา ฉบับรวมที่ 3 ปี 2559
ในด้านหนึ่งของงานวิจัยเกี่ยวกับชาดก เป็นผลงานที่เกี่ยวข้องกับ “การวิเคราะห์เชิงพุทธศิลป์” ในยุคอินเดียโบราณ อาโม ประดิษฐกรรม ภาพสลักที่เล่าเรื่องชาดกที่สูญปารหุต (Barhuts) ของ A. Cunningham ในปี พ.ศ. 2422^6
นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่รวบเอา “การวิเคราะห์เชิงคัมภีร์” และ “การวิจัยเชิงพุทธศิลป์” ไว้ด้วยกันโดยเป็นงานวิจัยที่รวบรวมและศึกษาประโยคเทียบเรื่องราวของชาดกที่ปรากฏในคัมภีร์สายจริตต่าง ๆ รวมถึงภาพสลักนิเล่าเรื่องชาดกที่สูญปารหุตและสายจู โดย Ryushō Hikata ในปี พ.ศ. 2497^7
ชาดกในคัมภีร์ที่ปรากฏและสืบทอดมาถึงปัจจุบัน
ชาดกที่ปรากฏและสืบทอดมาจนถึงปัจจุบันนี้มีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท ได้แก่ 1. คัมภีร์ที่ปรากฏเฉพาะเนื้อหาของชาดกเพียงอย่างเดียว และ 2. คัมภีร์ที่มีเนื้อหาของชาดกปรากฏอยู่เป็นแห่ง ๆ แทรกอยู่กับเนื้อหาอื่นในคัมภีร์ต่าง ๆ ซึ่งในที่นี้จะแนะนำเพียงคัมภีร์ประเภทที่ 1 ขึ้นมาเท่านั้น โดยคัมภีร์ประเภทนี้มีอยู่ด้วยกัน 5 คัมภีร์^8 ได้แก่
5 ดูเชิงอรรถที่ 4
6 Cunningham (1879: 48-82)
7 Honshō-kyōrui-no-shisō-shiteki-kenkyū 本生経類の思想史的研究(งานวิจัยเชิงประวัติศาสตร์ของแนวคิดในคัมภีร์ชาดกและคัมภีร์เทียบเคียง). 1954. Tokyo: Toyo Bunko. (revised and enlarged edition. 1978. Tokyo: Sankibo-bussorin)
8 Hikata (1978a: 96-108)