ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมวธา วรรณวัตรวรรกาวาจพระพุทธศาสนา
ปีที่ 7 ฉบับที่ 12 (ฉบับรวมเล่มที่ 12) ปี 2564
หลังจากนั้นหลายร้อยปีผ่านไป "ปรัชญาปรมิตาสูตร" ในรูปแบบต่าง ๆ จึงได้เกิดขึ้น และแพร่ขยายไปทั่วเอเชีย สำหรับในประเทศไทยพระสูตรนี้ได้เข้ามาในช่วงคริสตศักราชที่ 6-7 ในสมัยของเจ้าชายโชโตนะ
นักศึกษา : ครั้งก่อนที่ได้ลองคัดลอกรัศมี ผมจำได้ว่าคัดลอกจากของนิภายนซาน ไม่ทราบว่า นิภายนชื่อนี้คือ "ปรัชญาปรมิตาสูตร" นี่ถูกจำกัดหรือไม่ครับ ?
อาจารย์ : สำหรับ "ปรัชญาปรมิตาสูตร" นี้ได้รับการนิคอย่างกว้างขวางในหลายนิภายนของพระพุทธศาสนามาหลากหลาย แต่สำหรับสาย
14 聖德太子(shōtoku taishi : 574-622) หรือ เจ้าชายอุมยะโดะ (殷戸皇子 umayado no ōji) เป็นผู้นำรัฐราชการแทนจักรพรรดิซูกิอิโกะ (推古天皇 suiko tennō) ได้บริหารบ้านเมืองและสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศร่วมกับโชะนะในอุดมโกะ (蘇我馬子 soga no umako) อีกทั้งยังรื้อฟื้นความสัมพันธ์ที่หายไปนานกับประเทศจีน (ราชวงศ์สุย 陝 zui) และได้ส่งพระภิกษุไปศึกษาจากประเทศจีน (ราชวงศ์สุย) พระองค์เป็นผู้มีคุณูปการต่อพระพุทธศาสนามากมาย อาทิ รจนคัมภีร์ "ชินเกียวจิ้งโจ" (三経義疏 sangyō gisho) (ผู้แปล : “ชินเกียว-จีนะ” คือ คัมภีร์อรรถาธิบายพระสูตร 3 พระสูตร ซึ่งพระสูตรทั้ง 3 ที่กล่าวถึงนี้ได้แก่ สังธรรมปูรณรติสูตร (法華経 hokekyō) ศรีมาลาเทวสิหนาทสูตร (勝鬘経 shōmangyō) วิฬิพฤตินิเทศสูตร (維摩経 yuimagyō) และสถาปนาวัดต่างๆ เช่น วัดโอรวิจิ (法隆寺 hōryūji) วัดโตอินฯ (四天王寺 shitennōji) เป็นต้น