ข้อความต้นฉบับในหน้า
เป้าหมายของการบวชตั้งแต่อดีต
จนถึงปัจจุบันชัดเจนตรงกัน คือ
มุ่งพระนิพพาน
พอบวชแล้ว ท่านบอกว่าผู้บวชได้อานิสงส์ ๑๔
กัป โยมพ่อโยมแม่ได้ ๓๒ กับ ญาติพี่น้องรวมทั้ง
ผู้สนับสนุนการบวชได้ ๑๖ กัป ถามว่ากัปหนึ่งนาน
แค่ไหน สมมุติว่ามีศิลาหินแท่งทึบ สูง กว้าง ยาว
๑๖ กิโลเมตร ถึงเวลา ๑๐๐ ปี มีเทวดานำเอาผ้าแพร
ที่บางเบาเหมือนควันไฟมาลูบที่หนึ่ง ลูบจนกระทั่ง
ศิลาหินนั้นราบเท่ากับพื้น นั่นคือ ๑ กัป ลองคิดดู
ว่า หินแกรนิตแท่งทึบ สูง กว้าง ยาว ๑๖ กิโลเมตร
ร้อยปีเอาผ้าทิพย์บางเหมือนควันไฟมาลูบที่หนึ่งกว่า
๑๖
จะสึกลงเสมอแผ่นดิน ลำบากไหม อย่าว่าแต่
กิโลเลย พื้นหินแกรนิตที่บ้านเราแค่ไม่กี่เซนติเมตร
แล้วไม่ต้องเอาผ้าทิพย์เหมือนควันไฟด้วย ลองเอาผ้า
ๆ
ถูพื้นหยาบ ๆ นี่แหละไปถู แล้วก็ไม่ต้องรอถึง ๑๐๐
ปี ถูไปเรื่อย ๆ กว่าจะทำให้หินแกรนิต ๓-๔ เซนติเมตร
สึกลงเสมอแผ่นดินยังหืดขึ้นคอ เพราะฉะนั้น ๑ กัป
นี่นานมาก อานิสงส์การบวชให้ผลถึงขนาดนี้ ไม่
ธรรมดาเลย
บางคนถามว่าพ่อแม่ได้อานิสงส์ที่ลูกชายบวช
๓๒ กัป คือไม่ตกนรกตลอด ๓๒ กัป เลยใช่ไหม
คำตอบคือไม่ใช่ ถ้าไปทำบาปทำกรรมยังมีสิทธิ์ตก
นรก แต่ในระยะเวลา ๓๒ กัป บุญยังตามส่งผล
ต่อเนื่อง ถ้าหากพลั้งเผลอไปทำผิดศีล โอกาสตกนรก
ยังมีอยู่ แต่บุญจะตามไปส่งผลทำให้กลับตัวกลับใจ
ได้เร็ว อยู่ ๆ เกิดฉุกคิดขึ้นมาว่าเลิกดีกว่า บุญจะ
ไปเตือนใจให้ได้คิดขึ้นมาหรือเกิดไปตกระกำลำบาก
เจออุปสรรคต่าง ๆ บุญก็จะมาอุ้ม อยู่ ๆ ก็มีคนมา
ช่วยให้ผ่านวิกฤตอันนั้นมาได้อย่างนี้เป็นต้นตลอดช่วง
๓๒ กัป บุญยังตามส่งผลต่อเนื่อง เหมือนเรามีคน
คอยปกป้องสนับสนุนนานทั้ง ๓๒ กัป คุ้มแสนคุ้ม
เพราะฉะนั้น จึงเป็นที่มาที่บอกว่า ถ้าลูกได้บวช
พ่อแม่จะได้เกาะชายผ้าเหลืองไป เป็นการเปรียบ
เทียบ เพราะอานิสงส์ที่ได้จากการที่ลูกบวชมาก
ขนาดนี้ พ่อแม่ถึงอยากจะให้ลูกบวชมาก
ทำไมโบราณจึงให้บวชก่อนเบียดหรือ
บวชก่อนแต่งงาน
การบวชเป็นการฝึกตัวเองที่ดีเยี่ยม ได้ปฏิบัติ
ขัดเกลากิเลส คนโบราณจึงถือว่า ถ้าผู้ชายคนไหน
จะไปขอลูกสาวเขามาแต่งงาน ถ้ายังไม่เคยบวช เขา
ไม่ยกลูกให้ เพราะเขายังไม่ไว้ใจว่าจะมีธรรมะเป็น
หลักของครอบครัวหรือเปล่า เพราะฉะนั้นต้องบวช
ก่อน ใครบวชเต็มพรรษาแล้วเขาเรียกว่าทิด ทิด
แปลว่าคนสุก คือกิเลสในตัวสุกแล้ว แม้ยังไม่หมด
กิเลส แต่ว่าทั้งโลภะ โทสะ โมหะ ถูกการบำเพ็ญ
ตบะจากการบวชและตั้งใจบำเพ็ญสมณธรรมแผดเผา
จนกระทั่งกิเลสสุก พ้นจากความดิบ คือกิเลสที่หยาบ
เริ่มละเอียดลง ถูกบ่มได้ที่ไปชั้นหนึ่งแล้ว เขาถึง
เรียกว่าคิดหรือคนสุก จึงเป็นธรรมเนียมไทยแต่
โบราณว่าให้บวชก่อนแต่งงาน เดี๋ยวนี้ธรรมเนียม
เริ่มจะหย่อน ๆ ลงมา เพราะฉะนั้นจึงเกิดปัญหา
ครอบครัวเยอะ เพราะว่ายังไม่เคยผ่านการบวชเรียน
ดังนั้นให้พวกเรามาช่วยกันฟื้นธรรมเนียมนี้กลับมา
ชายไทยเกิดมาชาติหนึ่งก็บวชเสียเถิด ถ้าเกรงว่า
ทำงานแล้วจะหาเวลาบวชยาก ขณะกำลังเรียน
หนังสืออยู่พอปิดเทอมก็บวชเลย มีจังหวะเมื่อไรรีบ
บวชเลย ถ้าอยู่ชั้นมัธยมจะบวชเณรก่อนก็ได้ พอครบ
บวชพระ บวชอีกรอบก็ยิ่งดี ถึงคราวเกิดมีงานการ
ติดพันขึ้นมา อย่างน้อยเราก็ยังมีช่วงที่เคยบวชอยู่
ในผ้าเหลือง
200