โครงการบวชและฟื้นฟูวัดในไทย วารสารอยู่ในบุญ ประจำเดือน พฤษภาคม พ.ศ.2555 หน้า 113
หน้าที่ 113 / 144

สรุปเนื้อหา

โครงการบวชหมู่ 900,000 รูปและฟื้นฟูวัดร้างให้มีชีวิตชีวาขึ้น โดยรวมถึงเด็กดีวีสตาร์ จัดทำโดยคุณครูไม่ใหญ่ นักเรียนอนุบาลถูกชวนให้ปลื้มและมุ่งเน้นช่อง DMC แทนสื่อที่มีข่าวลบเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา โดยมีกรณีศึกษาที่เผยถึงประสบการณ์เสริมแรงกันและกันอย่างดี.

หัวข้อประเด็น

-โครงการบวชหมู่
-ฟื้นฟูวัดร้าง
-ธุดงค์ธรรมชัย
-การสร้างบารมี
-ประสบการณ์สื่อและพระพุทธศาสนา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

อุปสมบทหมู่ 900,000 รูป ทุกหมู่บ้านทั่วไทย, โครงการบวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน 9,000,000 คน, โครงการเด็กดีวีสตาร์ 9,000,000 คน, ธุดงค์ธรรมชัย ฟื้นฟูวัดร้างให้เป็นวัดรุ่ง, ธุดงค์ธรรมชัยสถาปนา เส้นทางมหาปูชนียาจารย์ (๓๘๑ กม.), ธุดงค์ธรรมชัย อัญเชิญหลวงปู่ทองคำ (๕๙ กม.) ทุกโครงการ มหัศจรรย์ทั้งสิ้น และเป็นเรื่องปลื้ม ๆ ทั้งสิ้น และ คุณครูไม่ใหญ่ก็ถามทุกครั้งว่า “ปลื้มไหม?” เราก็จะ ตอบว่า “ปลื้ม” เพราะมันปลื้มจริง ๆ แล้วท่านยัง บอกต่อว่า "ถ้าไม่ปลื้มก็ขาดทุน” หลักวิชชาต้องปลื้ม ก่อนงาน วันงาน และหลังงาน (อย่างน้อย 7 วัน) ซึ่งพวกเรา นร.อนุบาลฯ ส่วนใหญ่ก็ทำตามได้ แต่มี ๆ บางส่วนที่ความปลื้มสะดุด เพราะไปเสพสื่ออื่น ๆ อย่างไม่รู้เท่าทัน ไปมีอารมณ์ (เสีย) ร่วมกับสื่อ บางช่อง บางรายการ บางฉบับ ที่ลงข้อมูลด้านลบ ของพระพุทธศาสนาและหมู่คณะของเรา ทำให้ พวกเรา นร.อนุบาลฯ บางท่านที่ติดตามข่าวสาร เหล่านี้ เสีย ๒ เด้ง คือ เสียสตางค์และเสียอารมณ์ พร้อมกับเพิ่มเรตติ้งให้เขา ในฐานะเป็น นร.อนุบาลฯ ด้วยกันอยากจะบอกให้เราวางอุเบกขา อย่าไปร่วม บาปกับเขาเลย เรามาปลื้ม ๆ กับเรื่องราวการสร้าง บารมีของเราทางช่อง DMC ช่องนี้ช่องเดียวดีกว่า ส่วนคนที่ไม่อยากจะเข้าใจก็ให้เป็นไปตามวิบากกรรม ดังเรื่องราวต่อไปนี้ Case Study วิบากกรรมบิดเบือนสื่อ วันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ กราบนมัสการคุณครูไม่ใหญ่ที่เคารพอย่างสูง ขบวนการ ในช่วงนั้นผมได้รับกำลังใจจากพระเดช ผมไม่ประสงค์จะเปิดเผยนาม แต่ได้ไตร่ตรอง พระคุณพระธรรมราชานุวัติ (หลวงเตี่ย) ซึ่งเป็น อย่างถี่ถ้วนแล้วมีคำตอบให้แก่ตัวเองว่า กรณีศึกษา พระผู้ใหญ่ที่ครอบครัวของผมนับถืออย่างสูงสุดมานาน ของผมน่าจะเป็นประโยชน์แก่สังคมของคนหมู่มาก หลวงเตี้ยเคยพูดกับผมว่า “แกเดินมาถูกทางแล้ว วันนี้ ในยุคปัจจุบันนี้อยู่บ้าง สังคมไทยถูกเมฆหมอกปิดบังหูตา ในอีกไม่กี่ปี ข้างหน้าความจริงจะปรากฏ ขอให้ความจริงมาเยือน เถอะ และจงสู้ต่อไป” ผมเคยเป็นคอลัมน์นิสต์ตัวเล็ก ๆ ที่หนังสือพิมพ์ รายวันฉบับหนึ่ง ซึ่งในขณะนั้นมีกัลยาณมิตรของ วัดพระธรรมกาย ๓ ท่าน เป็นกัลยาณมิตรให้กับผม ในช่วงที่วัดพระธรรมกายประสบปัญหาวิกฤตอย่าง หนัก จากการโดนสื่อมวลชนกลุ่มใหญ่รุมเล่นงาน โดย ทำตัวเป็นตุลาการพิพากษาให้สังคมรับรู้เรื่องราวของ คำสาปแช่งก็เยอะ ระหว่างที่ผมทำงานที่หนังสือพิมพ์ วัดพระธรรมกายเป็นรายวัน ผมเฝ้ามองสถานการณ์ การลุกขึ้นสู้กับสื่อมวลชนทั้งหลายของผมมีผลตาม มาก็คือ ได้ทั้งก้อนอิฐและดอกไม้ มีจดหมายหลั่งไหล ไปกองอยู่ที่โต๊ะทำงานเป็นภูเขาเลากา คำชมก็มาก ฉบับนั้น ในช่วงหลัง ๆ มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น อย่างเกาะติด และพบว่าวัดพระธรรมกายไม่ได้รับ คือ ผมถูกอิทธิพลจากผู้บริหารงานระดับสูง มาบีบ ความเป็นธรรม ทั้ง ๆ ที่เมืองไทยเป็นดินแดนแห่ง บังคับให้เขียนกลับคำ ๑๘๐ องศา ชนิดที่เรียกว่าหน้า พระพุทธศาสนา ผมจึงได้เปิดคอลัมน์ที่หนังสือพิมพ์ มือเป็นหลังเท้าทีเดียว เพื่อนคอลัมน์นิสต์บางคนยอม เล็ก ๆ ฉบับที่ผมทำงานอยู่ โดยมีจุดมุ่งหมายเพียง ทำตามคำสั่งเพื่อความอยู่รอด แต่ผมไม่ยอม ผม แค่ให้สังคมเกิดหูตาสว่างและเปิดกว้าง ไม่ให้หลงเชื่อ มักคิดถึงคำพูดของหลวงเตี่ยเสมอ ผมมีความสำนึก ตามกระแสข่าวที่สื่อมวลชนสร้างกันขึ้นมาอย่างเป็น อยู่ลึก ๆ ว่า ทุกอย่างเรารู้ประจักษ์ใจดีอยู่แล้ว
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More