ข้อความต้นฉบับในหน้า
66 ตอนที่วิสัญญีแพทย์ทำการวางยาสลบ จิตใจของผมได้สัมผัสกับหลวงปู่ (หลวงพ่อ
วัดปากน้ำ) ท่านมาปรากฏให้เห็นในรูปของรูปหล่อทองคำองค์ใหญ่ จากนั้นรูปหล่อ
ทองคำของหลวงปู่ก็กระจายออกเป็นองค์เล็ก ๆ ดูระยิบระยับไปหมด แล้วก็หายไป
พร้อมกับการเข้าสู่ภวังค์โดยไม่รู้สึกตัวของผมในเวลาต่อมา
การเขียนด้วยมือแล้วจะให้เปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่น
99
ของผมได้รับผลกระทบจากการกระแทกและถูก
ผมทำไม่ลง ผมฝืนใจอยู่ต่อไปอีกไม่ได้จึงลาออก แล้ว กระจกบาดอย่างรุนแรง หมดโอกาสที่จะมองเห็นอีก
ไปทำงานกับหนังสือพิมพ์อีกฉบับหนึ่ง ในช่วงที่ผม ต่อไป พ่อแม่ญาติพี่น้องต่างสิ้นหวัง มีเพื่อนของผม
ลาออกจากหนังสือพิมพ์เดิมนั้น มีคนบางคนใช้ คนหนึ่งได้ติดต่อไปทางแพทย์ผู้ใหญ่ของโรงพยาบาล
คอลัมน์เก่าของผม และนามปากกาเดียวกับผม ไป ศิริราช เพื่อให้ผมได้อยู่ในความดูแลของแพทย์
เขียนว่าวัดพระธรรมกายโดยการดัดแปลงสำนวนลีลา ผู้เชี่ยวชาญด้านจักษุโดยตรง พอรุ่งขึ้นวันที่ 6 ตุลาคม
การเขียนให้เหมือนกับผม ซึ่งการกระทำที่เกิดขึ้น ผมถูกส่งตัวไปที่ตึกกาญจนาภิเษก โรงพยาบาลศิริราช
ครั้งนั้น ทำให้กัลยาณมิตรของวัดพระธรรมกายเข้าใจ และอยู่ในการดูแลของอาจารย์แพทย์ตั้งแต่บัดนั้น
ผิดอย่างมาก นอกจากนั้นยังทำให้ผมต้องกลายเป็น
คนอกตัญญูต่อพระผู้ใหญ่หลายท่านแต่อย่างไรก็ตาม
เป็นต้นมา
ในระหว่างนั้นมีการหยอดยารักษาอาการอักเสบ
ผมก็ยังโชคดีที่มีพี่กัลยาณมิตรทั้ง ๓ ท่าน คอยให้ ตาทั้ง ๒ ข้าง ทุก ๆ ๑ ชั่วโมง มีการทดสอบสายตา
กำลังใจและให้ความเข้าใจอยู่เสมอ
๖
และจอประสาทตารวมทั้งเลนส์ตาอยู่เป็นระยะ ๆ
พยายามรักษาสภาพตาไม่ให้มีการเหลือกถลนออก
ในขณะที่ผมทำงานอยู่กับหนังสือพิมพ์ฉบับใหม่ แพทย์ให้ความหวังว่า สิ่งที่คณะแพทย์ทำได้ดีที่สุดคือ
ในคืนวันที่ 5 เข้าวันที่ ๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๗
ระหว่างขับรถจากที่ทำงานกลับบ้าน ผมอ่อนเพลีย
จากการทำงานมาก จึงหลับในขณะขับรถ และประสบ
มาจนน่าเกลียด การรักษาเพื่อให้มีโอกาสมองเห็น
นั้นค่อนข้างจะเลือนราง นอกจากจะมีปาฏิหาริย์มา
อุบัติเหตุอย่างรุนแรง จนรถพังยับเยินทั้งคัน ทำให้ ช่วยเท่านั้น ผมเรียนหมอไปว่าพร้อมที่จะอุทิศตัวเอง
ข้อมือซ้ายหัก กะโหลกระหว่างตาซ้ายและตาขวาร้าว เพื่อความก้าวหน้าให้กับวิทยาการด้านนี้ แต่หมอก็
และที่ร้ายแรงยิ่งกว่านั้นคือ ต้องสูญเสียดวงตาทั้ง ๒ แย้งว่า “การที่แพทย์จะทำอะไรลงไปต้องหวังผลและ
ข้าง เหตุเกิดที่ถนนประชาราษฎร์สาย ๑ ใกล้สถานี ไม่คิดจะนำคนไข้ไปเป็นหนูทดลองยา” แต่ผมก็ตอบ
ตำรวจเตาปูน มีผู้นำส่งโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ผม หมอไปว่า “ถึงแม้ปล่อยไว้อย่างนี้ ชีวิตก็ตกอยู่ใน
มารู้สึกตัวตอนประมาณ ๐๖.๐๐ น. ของวันที่ ความมืด ไม่มีประโยชน์อะไร สู้ให้แพทย์ทดลอง
ตุลาคม ญาติและเพื่อน ๆ ของผมได้ทราบเรื่องก็ เสี่ยงผ่าตัดดูก็คงพอมีหวังอยู่บ้าง ถ้าไม่ประสบผล
เดินทางไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลในเวลา ๐๙.๐๐ น. สำเร็จก็ถือว่าไม่มีอะไรจะขาดทุนอีกต่อไปแล้ว”
เมื่อถึงเวลา ๐๙.๐๐ น. แพทย์ได้เริ่มให้การรักษาโดย วันที่ ๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๗ แพทย์ทน
นำเอาดวงตาทั้ง ๒ ข้าง ที่ห้อยออกมาเป็นลูกปิงปอง ลูกซื้อของผมไม่ไหวจึงทำการผ่าตัด ก่อนการผ่าตัด
อยู่นอกเบ้าตากลับเข้าที่ ได้มีการวางยาสลบและเย็บ ผมนึกถึงคุณพระพุทธเจ้าตามที่พระแนะนำ ช่วง
แผลที่ตาหลายชั้น ผมมาฟื้นอีกครั้งในช่วงเย็น ระหว่าง สำคัญคือ ตอนที่วิสัญญีแพทย์ทำการวางยาสลบ
นั้นแพทย์ได้แจ้งให้ญาติทราบว่า ดวงตาทั้ง ๒ ข้าง จิตใจของผมได้สัมผัสกับหลวงปู่ (หลวงพ่อวัดปากน้ำ)
๑๑๒
๗