การประเมินความสามารถและความดีในองค์กร สัมมาทิฏฐิ รากฐานการพัฒนาชีวิต หน้า 34
หน้าที่ 34 / 56

สรุปเนื้อหา

บทความนี้พูดถึงวิธีการประเมินบุคลากรในองค์กร โดยให้ความสำคัญกับการตรวจสอบความดีและความสามารถจริงในการทำงาน การเลื่อนตำแหน่งควรขึ้นอยู่กับความดีที่เห็นได้ชัด เช่น หากบุคคลทำงานได้ดีและมีความสามารถควรให้เลื่อนตำแหน่ง แต่ต้องระวังกลุ่มคนที่มีเพียงความขยันแต่ทำให้เกิดความเสียหาย การใช้หลักฐานเพื่อป้องกันตัวจากบุคคลเหล่านี้เป็นสิ่งที่สำคัญ โดยมีการเน้นย้ำว่าควรจะมีความชัดเจนในการประเมินผลและการจัดการกับลูกน้องที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม

หัวข้อประเด็น

-การประเมินความดีในการทำงาน
-การเลื่อนตำแหน่งในองค์กร
-ความสำคัญของความสามารถและความขยัน
-กลุ่มคนที่ทำงานไม่ถูกต้อง
-หลักฐานในการป้องกันการถูกตรวจสอบ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

๓๔ ไม่ไล่ออกก็ดีแล้ว จะมาเอาขั้นอะไรกัน ชี้เหตุผลให้ชัดไป เลย ว่านี่ไม่ได้เลื่อนตำแหน่งเพราะทำไม่ถูกดี คนนี้แม้ว่า จะถูกดี แต่ว่าไม่ถึงดี มันพวกผักชีโรยหน้า เป็นพวก ความชั่วไม่มี แต่ความดีไม่ปรากฏ เพราะจริงอยู่ ถึงแม้ว่า เจ้าจะฉลาด แต่มนุษย์พวกถูกดีแล้วไม่ถึงดีนี้น่ากลัว เพราะ พวกนี้มันทำงานไปคืบเดียว แล้วมันเอาปากไปโพนทะนา ให้ยาวไปอีกว่าหนึ่งว่า ใครก็ว่ามันดีทั้งนั้น แล้วเราจะโดน ผู้บังคับบัญชาด่าก็ตรงนี้ เพราะฉะนั้น เจอลูกน้องคนไหนผักชีโรยหน้า ทำ คืบหนึ่งแล้วเอาปากไปโพนทะนาไว้วาหนึ่ง เตรียมหลักฐาน ของเรากันไว้ได้เลย ไม่อย่างนั้นมันก็จัดการเราได้ พวกมนุษย์ พรรค์นี้ แม้เป็นพระยังโดนเลย หลวงพ่อก็โดนมาแล้ว ก็ ขอฝากไว้ด้วย เพราะฉะนั้น ถ้าใครทำทั้งถูกดี ถึงดี และพอดี ก็ให้ไปเลื่อนตำแหน่งไปเลยสองขั้น แค่ถูกดี แต่ไม่ถึงดี ให้เลื่อนตำแหน่งได้ขั้นหนึ่ง พวกที่ทำไม่ถูกดี แต่ว่าขยัน ถึงอย่างนั้นก็ตาม ก็ให้ได้อยู่แค่นั้น ยังไม่ไล่ออกเพราะยัง ขยันอยู่ แต่พวกที่ขยันแล้วทำเสียหายเรื่อยๆ นั้น ก็ทำเอา ลูกพี่แย่เหมือนกัน วันดีคืนดีต้องไปตบไหล่ “ไอ้น้องเอ๊ย ขยัน ให้น้อยกว่านี้เถอะ เอ็งยิ่งขยัน พี่ยิ่งโดนสอบ” อย่างนี้ก็มี พวกเราก็นำหลักตรงนี้ไปปรับดูให้ดี เรื่องกฎแห่ง กรรมจริงๆ ก็ไม่ใช่ยากอะไร ถ้าจับแง่มุมถูกอย่างนี้ นี่ก็
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หน้าหนังสือทั้งหมด

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More