ข้อความต้นฉบับในหน้า
๔๙
มันก็เหลือทําเช้าชามเย็นชาม หนักเข้าๆ ก็เลยเหลือเช้าช้อน
เย็นช้อน ปากก็บอกว่าทำเช้าชามเย็นชาม แต่ผลออกมาทำ
เช้าช้อนเย็นช้อน ตัวเองก็อยู่ไม่ได้ ครอบครัวก็อยู่ไม่ได้
บ้านเมืองก็อยู่ไม่ได้
แต่ว่าถ้ามีความเชื่อว่าสมณะชีพราหมณ์ที่ปราบกิเลส
ได้มีจริง พระพุทธเจ้ามีจริง พระอรหันต์มีจริง บุคคลที่ทำ
ความดีแล้วได้ดีจริงมีอยู่ ถ้าเราจะทำบ้าง มีความเชื่อมั่น
อย่างนี้ การทุ่มเทสร้างความดีก็จะทำเต็มที่ในฐานะที่เป็น
นักบริหาร นักปกครอง หรือแม้ที่สุด อาจจะยังไม่เชื่อว่า
พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีจริง แต่เพียงเชื่อว่าทำดีต้องได้ดีจริง
แม้เพียงระดับนี้ได้ ก็สามารถไปปลูกฝัง สัมมาทิฏฐิให้กับคนใน
บังคับบัญชาของเราได้ แต่ถ้าเมื่อไร มีครบทั้ง ๔ ประการนี้
ก็บอกว่าลอยลำแล้ว ถึงคราวจะมีโอกาสทำความชั่ว ก็สามารถ
ติดเบรคให้กับตัวเองได้เต็มที่ ใครจะรู้หรือไม่รู้ ใครจะเห็น
หรือไม่เห็น ใครจะมา เป็นโจทก์เป็นพยานมาชี้ตำหนิอะไร
เราไม่สนหรอก ถ้ารู้เป็นความชั่วเป็นไม่เอา ถ้าเป็นความดี
ก็ทุ่มเทกันเต็มที่เลย