ข้อความต้นฉบับในหน้า
20
สักการะนี้จึงสมควรแก่พระผู้มีพระภาคเจ้าเท่านั้น
ท่านจึงน้อมนำไปถวายแด่พระบรมศาสดา พระภิกษุ
สงฆ์ได้สนทนากันถึงเรื่องของอุบาสก ผู้รู้จักถวาย
ไทยธรรมแด่พระทักขิไณยบุคคลอันเลิศ พระบรม
ศาสดาจึงนำอดีตนิทานมาตรัสเล่าให้ฟังว่า แม้ใน
กาลก่อน เมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้ายังไม่เสด็จอุบัติขึ้น
เรื่องเช่นนี้ก็ได้เคยเกิดขึ้นมาแล้วเหมือนกัน ดังนี้
ในอดีตกาล พระเจ้าพรหมทัตครองราชย์
อยู่ในนครพาราณสี เมื่อทรงตรวจดูจริยาวัตรของ
พระองค์เอง ก็ไม่เห็นโทษอะไร วันหนึ่ง ทรงดำริ
ว่าจะเสด็จไปฟังข่าวนอกเมืองสักหน่อย เพื่อดูว่า
จะมีใครกล่าวโทษอะไรพระองค์บ้างไหม จึงทรงมอบ
พระราชอำนาจให้กับพวกเหล่าอำมาตย์ แล้วปลอม
เป็นชาวบ้านธรรมดา เสด็จไปตามหมู่บ้านต่าง ๆ
พร้อมกับพราหมณ์ปุโรหิต เนื่องจากพระราชาทรง
ปกครองแผ่นดินโดยธรรม จึงไม่พบผู้ที่กล่าวถึง
โทษของพระองค์เลย มีแต่คนกล่าวยกย่องสรรเสริญ
พระองค์เพียงอย่างเดียว
5
ต่อมา เมื่อพระราชาเสด็จไปถึงชายแดน
ประทับนั่งที่ศาลาริมทาง ขณะนั้น มีเศรษฐีบ้านนอก
คนหนึ่ง กำลังไปที่ท่าน้ำพร้อมกับพวกพ้องบริวาร
มองเห็นพระราชามีผิวพรรณวรรณะผ่องใส กิริยา
มารยาทงดงามน่าเลื่อมใส จึงเข้าไปสนทนาปราศรัย
ด้วย เมื่อทราบว่าเป็นพระราชา จึงรีบกลับไปบ้าน
จัดแจงโภชนะมีรสเลิศมาถวายพระราชา
ในขณะเดียวกัน ดาบสซึ่งอาศัยอยู่ในป่า
หิมพานต์ได้เหาะมาแวะพักที่ศาลาหลังนั้นเช่นกัน
ส่วนพระปัจเจกพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งเสด็จมาทาง
อากาศ และประทับนั่งที่ศาลาแห่งนั้นอีกองค์หนึ่ง
ซึ่งแต่ละท่านมาพักที่นั่นโดยไม่ได้นัดหมายกันเลย
กุฎมพี่ได้นำอาหารรสเลิศเข้าไปถวายพระราชา
เมื่อพระราชาทรงรับแล้ว แทนที่จะเสวยเอง กลับ
พระราชทานแก่ปุโรหิต แต่พราหมณ์ปุโรหิตก็ถวาย
แด่ดาบสต่ออีกทอดหนึ่ง ฝ่ายดาบสเมื่อรับแล้วก็ได้
น้อมนำไปถวายแด่พระปัจเจกพุทธเจ้า
เศรษฐีเห็นถาดอาหารถูกส่งต่อกันไปเป็น