ข้อความต้นฉบับในหน้า
ความทรงจำของผมแทรกซึมเข้ามาปรากฏอีกครั้ง
ผมนึกถึงรถเข็นอีกคันหนึ่งของผู้นำบุญที่เป็นเครือญาติกัน
พาคุณแม่วัยใกล้เคียงกับอาม่ามาทำบุญที่วัด การดูแลผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
ความทรงจำเริ่มเสื่อม หลง ๆ ลืม ๆ นั่งรถเข็นมาร่วมงานบุญนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
แต่ถึงลำบากอย่างไรด้วยความกตัญญูที่อยากตอบแทนให้คุณแม่ได้เก็บบุญในช่วงสุดท้ายของชีวิต
ให้มากที่สุด เธอก็พยายามทำ
ผมมองไม่เห็นความเหนื่อยอ่อนในแววตาคู่นั้น แต่กลับจดจำความตั้งใจในแววตาได้อย่างชัดเจน
ระหว่างที่รถแล่นออกมา เมื่อหันหลังกลับไปมอง ภาพอาม่านั่งในรถเข็นเห็นองค์พระใหญ่โตยัง
ติดตาและถูกบันทึกเข้าไปอยู่ในความทรงจำ
เรื่องของความทรงจำ บางคนเกี่ยวเก็บไว้ได้นานเท่านาน
แต่สำหรับบางคนสิ่งที่เคยทำไว้ในอดีตกลับจำไม่ได้เมื่อสังขารเริ่มเสื่อม
เราทุกคนอยู่ได้ด้วยความทรงจำของเราเอง
เราไม่รู้ว่าภาพความทรงจำใดจะเลือนหาย ภาพใดจะยังคงเหลืออยู่เมื่อถึงวัยที่ต้องนั่งในรถเข็น
ทางเลือกที่ไม่ประมาทคือ สั่งสมแต่ภาพดี ๆ ไว้ให้มากที่สุด
หากความทรงจำเลือนหายไปเกือบหมด
ภาพที่ยังเหลืออยู่ย่อมเป็นภาพที่ทำให้ปลื้มปีติใจ
๒๓.๕๙
ผมมองตัวเลขบนหน้าปัดนาฬิกาแล้วพบว่า มีตัวเลขที่เป็นจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด
และจุดทั้งสองนี้ทับซ้อนจนมองเห็นเป็นจุดเดียวกัน
เวลา 00.00 คือเวลาอะไร?
คือเวลาเริ่มต้นหรือเวลาสิ้นสุด
หรือว่าคือความว่าง หรือคือการรีเซ็ตกาลเวลาทั้งหมดใหม่ว่า นับจากนี้ไปได้เวลาเริ่มต้นกันใหม่
หรือว่าคือการหมุนเวียนไปของความคิด ที่มีความทรงจำเป็นตัวแทนของกาลเวลา
หรือว่าคือกฎของนาฬิกา
ตลอดปีที่ผ่านมามีเรื่องราวต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย
๑๐๒