ข้อความต้นฉบับในหน้า
วันอาสาฬหบูชา
วันอาสาฬหบูชา แปลว่า วันแห่งบุญบาเฉลิม ๘ ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ ของทุกปี
เป็นวันที่พระพุทธองค์แสดงหลักธรรมที่ทรงตรัสเป็นครั้งแรกแก่ปัญจวัคคีย์ ณ มกุฎราชัน เมืองพาราณสี ในมหาพุทธวิวมัยโรปาน ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ในประเทศอินเดีย
พระพุทธองค์ทรงเป็นธรรมราช ผู้จัดการแห่งธรรมให้คื่ดนูนไป นำความร่มเย็นและ
ความสงบสุขให้แก่บรรดาสรรพสัตว์ พระธรรมเทศนาที่ทรงแสดงเป็นครั้งแรกเจริญได้ชื่อว่า อัษฏมงคล
วัตถุดสุด เล่า พระสูตรแห่งการหนุนจักรแห่งธรรม พระสูตรนี้เป็นเมมของพระธรรมคำสอน
ทั้งหมดที่ในพระพุทธศาสนา ที่แสดงทั้งหนทางปฏิบัติซึ่งมีมาแต่เดิม ที่ไม่ไปสู่การพันทุกได้ ๆ
เลย แต่นำความทุกข์มาสู่ผู้ปฏิบัติ อันใกล้แก่ กามสุขาลาภุน คิอ การล่มลมวุ่นวายในกาม
และอัตติกิสมานูโค คิอ การทรมานตนเอง และแสดงถึงหนทางปฏิบัติซึ่งนำไปสู่การบรรลุผลอย่าง
แท้จริง ซึ่งพระองค์ทรงนพ คิอ มักมีมงกุฎ หรือวรรครองค์ ๘ ซึ่งเป็นหนทางเอกสายเดียว
ที่นักปฏิ บัติอย่างจริงจังไปสู่การบรรลุธรรมภายใน อัศจรรย์จัภกภายในตามเห็นริ้วรัง ๔ ภายในไป
ตามลำดับ ๆ จนกระทั่งดำจัดเล่ได้หมดสิ้นเดือดร้อน
หลังจากพระพุทธองค์ทรงปฐมเทศนาองค์ หัวหน้าบัญฑปัญญาวิค คือ ถีนโทภิญญะ
ได้ปล่อยใจไปตามกระแสพระธรรมเทศนา ได้รับแจ้งเทวดาตลอด กายเป็นพยานยืนยันว่าวัตรของ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปในที่นี้ พระองค์ได้ประทานการบวงแบบอัฆริติอุปสรรคเก่าเก่า ทำให้
ท่านเป็นพระสงฆ์องค์แรกในพระพุทธศาสนา และพระพุทธศานายังเกิดนี้ในโลกนี้อย่างสมบูรณ์แบบ
เพราะพระรัตนะ คิอ พระธิติยา ธรรมมัย สังมิรตนะ เกิดขึ้นครบถ้วนบริบูรณ์ ซึ่งหมายถึงว่า
ดวงตะวันที่แห่งการหลุดพ้นจากทุกข์ภัยในภูมิสารได้ส่องสว่างแก่บรรดาสรรพสัตว์แล้ว
ประเพณีบูชในวันอาสาฬหบูชา
เมื่อถึงวันอาสาฬหบูชา ปู่ย่าตายายของเรากำขวนขวนไปวัด เพื่อฟังพระธรรมเท่านาเรื่อง
อัษฏมงคลพระสูตร เพื่อเป็นการบันทวนแม่บทธรรมทั้งมวลในพระพุทธศาสนาให้เข้าใจและชื่น
ยิ่งขึ้น อีกทั้งยังนำมาประพฤติปฏิบัติ จนกระทั่งหลักการที่เหล่านี้กลายเป็นนิสัยประจำตัว นิสัย
ประจำชาติ ซึ่งส่งผลให้คนเอง หมู่คณะ และประเทศชาติดีขึ้น และสุขอย่างยั่งยืน
วันเข้าพรรษา
ครั้งหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้า ประทับอยู่ในกรงศคุต มีพระภิษฐา รูป (ฉัพพัคคีย์) เมื่อถึง
ฤดูฝนถึงพักผ่อนจาริกไปมา เทียวขับขวัญลากลับเสียาย และเหยียบสัตว์เล็กสัตว์น้อยให้ตายไป
ประชาชนจึงพากันดีใจเตียนว่า ในพระสมณคายบุญจริงที่ไปลาอคอยทุกข์กล่า พากันเหยียบย่ำขวัญ
กล้าและต้นไม้ ตลอดจนสัตว์จำนวนมาก แม้พากันเถียงและโรภาแกล้ะหยุดพักในฤดูฝน พวกอัคร
กิหูฤเดินทางไปขว้า เพราะการคมนาคมไม่สะดวก ทาเป็นทุลมบใกลโคลน หรือมั่นแต่นก็ยัง
รู้จักทำร้าย เพื่อพักหลบฝน