ข้อความต้นฉบับในหน้า
พระปัจเจกพุทธเจ้า คือผู้มีปัญญามีสูงส่ง มีพื้นใจจะอาดบริสุทธิ์ และมีดวงปัญญาเป็นเลิศ จึ่งสามารถตรัสธรรมและบรรลุมรรคผลนิพพานได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องมีครู เช่นเดียวกันกับพระสัมมาสุพุทธองค์ทั้งหลาย ต่างกันเพียงว่าพระปัจเจกพุทธเจ้าได้สั่งสอนนุ่มนวลให้บรรลุธรรมตามบทบาทวัตถุอย่าถึงที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรงทำได้ ดังนั้นในความเป็นเนื้อบุญพระปัจเจกพุทธเจ้าจัดอยู่ในลำดับที่ 2 รองจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และน้อยกว่าพระอรหันต์-สาวกทั้งหมด
ในคัมภีร์อภิธาน พระพุทธองค์ทรงตรัสสรรเสริญคุณธรรมของพระปัจเจกพุทธเจ้าให้พระอนุภาพฟัง โดยมีคำว่า ธรรมมวย ปรากฏอยู่ด้วย ดังนี้
"ปราชญ์เหล่าใดมีคีลและปัญญาบริสุทธิ์อย่างยิ่ง มีกิลงาน เห็นแจ้งธรรมอันวิไลฯ รู้แจ้งธรรมประกอบด้วยองค์แห่งมรรค และองค์แห่งการตรัสรู้ หนึ่งเจริญวิชาทั้งสาม ไม่เข้าถึงความเป็นสาวกในศาสนาของพระอินเจ้า ย่อมตรัสรู้ด้วยตนเองเป็นพระองค์เจ้า"
ท่านเหล่านั้นมีครมมี่ร่มใหญ่ มี ธรรมภาย มาก มีจิตเป็นอิสระ ข้ามพ้นหวังทุกข์ทั้งปวงได้มีจิตแข็งขึ้นเบิกบาน มองเห็นประโยชน์อันสูงสุด แก่กล้าถาดจุราชสีห์ และเที่ยวไปสังเวียนอันแสนร้อนแรง"
(แปลจากพระไตรปิฏกฉบับสยามรัฐ เล่มที่ ๒ ฉบับ ๒ หน้า ๒๐)
"แม้พระปัจเจกพุทธเจ้าจะกล่าวสั่งสอนอยู่บ้าง แต่ถ้าสอนเฉพาะคน หาได้สั่งสอนคนหมู่มากให้บรรลุธรรมตามท่านไปด้วยดังที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงกระทำ ไม่อึง เนื้อความที่พระปัจเจกพุทธเจ้า กล่าวสอนนั้น ส่วนใหญ่มิเป็นการตกเตือน ให้แจ้งให้เกิดความสงบเวร และสรรเสริญการปลิดจิตอยู่ลำพังเพื่อทำความเพียร โดยมิได้แนะแนวสั่งสอนถึงข้อปฏิบัติ เพื่อความรู้แจ้งเห็นจริงในธรรมตามท่านไปด้วยอย่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงกระทำ ดังนั้นพระปัจเจกพุทธเจ้าจึงไม่อาจนับว่าเป็น "ครู" อย่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้"