ข้อความต้นฉบับในหน้า
20. จงเป็นผู้มีความอดทนและเสี่ยงเจียมตัว
ความอดทนเป็นขีดสำคัญอย่างหนึ่ง ที่ควรจะปฏิบัติอย่างเช่นคนบราณเขาทำ เราก็ ควรจะทำได้เช่นกัน คืนนักเอาชีวิต อย่าคิดว่าเร็วแรงที่นั่นจะหมดเปลืองไปเปล่า อันไม่มี ประโยชน์นั้นเลย เมื่อเรารับรบถ่านอันแล้วก็ย่อมมีประโยชน์แท้จริงไม่ต้องสงสัย ความอดทน หนักเอานักสู้พากเพียรพยายามหาความดีเช่นนี้ นายคนใดเลยที่จะไม่เมตตากรุณา เขาเป็นอัน ไร้เสีย่ะ ท่านก็ต้องมีความเมตตาต่อผู้อื่น เชื่อใจแห่งความดีและความสามารถของเรา เร คงจะได้รับผลอันดีเป็นลำดับเป็นแน่ และเราอย่ายึดตัวเกินไป ให้รักษาเด็ก รักษาผู้ใหญ่ อย่าหมั่น ประเภทต่อท่านผู้สูงอายุ ระวังความหยิ่งเย่อผู้อื่นๆ จึงจะดีสมควร วันนี้ จึงจะบ่นว่า เรามีความมักดี ชื่อ ตรง และสามารถในตำแหน่งหน้าที่บ้างดี
ในเรื่องของความอดทนเพียรพยายามหาความดีนี้ หมอเจ้าหญิงผู้นิพนธ์ ดิศกุล ท่านบันทึก ถึงสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ขณะทรงดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ไว้ว่า เมื่อมีใครประสบผลตอบ ท่านว่าจะตรัสตรง ๆ ว่า “คุณไม่ต้องมาประจบฉันหรอก ถ้าหากจะประจบฉันจะให้ประจบงานดีกว่า เพราะมาประจบฉันนี้ไม่เกิดประโยชน์ มีแต่จะทำให้คุณเสียศักดิ์ศรี ทั้งงานก็ไม่ได้อา แต่ถ้าคุณประจบงานทุ่มเทในการทำงาน ฉันฏไม่บอด ฉันเห็นแล้ว จะเอาอะไรฉันจะปูนาบเนื้อให้ เพราะมันได้งาน” สมัยนั้นเป็นสมัยที่ท่านปลูกครองบ้านเมืองด้วยความซื่อสัตย์ ประชาชนจึงได้รับความยุติธรรม สมัยนี้ถ้ามีเจริญเราฝากไปอยู่ในหมู่นคุณพล ถึงตั้งใจทำงาน เอางานประจบเจ้าหน้าที่ แต่กลับถูก เพื่อนค้อนขอด ก็อย่าไปท้อถอยหมดกำลังใจ ขอให้ตั้งใจทำความดีต่อไป คิดเสียว่าเป็นเรื่องธรรมดา ของคนที่มีจิตใจเป็นทาส ขอบแต่ประจบจนไม่เอางาน อดีตอธิบดีกรมศาสนา พันเอกปิ่น มุกตัน เคยกล่าวไว้ว่า “เกิดเป็นคนแล้ว ต้องรู้รวมชาติต้องความว่า ปฏิคมเราเหงื่อต้องออก ถ้าใครเหงื่อไม่ออก คือ คนๆ เกี่ยว” ไม้ยอมทำงาน เป็นคนดูจะ จะทำอะไร ก็กลัวเหนื่อยไปเสียหมด คนประเภทนี้จะตกใน เมื่อเหงื่อออกในมากเข้าสักจะลักออกมา แต่ไม่ได้ลักออกมาเป็นเพียง จะออกมาเป็นน้ำตา คือจะไม่ประสบความสำเร็จใด ๆ เลยในชีวิต ดังนั้น หากทำงานอะไรแล้ว รู้สึกว่าจะต้องทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจอย่างเต็มที่ นั่นวา ถูกต้องแล้ว ใครจะอยู่เฉยไม่ทำงานก็ช่างเขา เพราะธรรมชาติของคนเราหึงต้องออก ต้องอดทน ต่อความลำบากตากรามิฉะนั้นจะตกใน กลายเป็นน้ำตาไป
* หมอเจ้าหญิงผู้นิพนธ์ ดิศกุล ทรงเป็นอกในสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ และหมออื้อ ดิศกุล (ยามาย) ผลงานสำคัญซึ่ง อย่างหนึ่ง คือ ทรงร่วมกันต้องอภิปรายพุทธศาสน์กันหลังแตงดา (พ.ศ.ล.) และทรงดำรงตำแหน่งประธานองค์กรตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๑๖–๒๕๒๑
พฤศจิกายน ๒๕๕๗ อยู่ในบุญ ๕๕