ข้อความต้นฉบับในหน้า
พระพุทธศาสนามีองค์ประกอบ คือ
๑. ศาสนธรรม คือ หลักธรรมคำสอนของพระสัมพุทธเจ้า
๒. ศาสนบุคคล คือ บุคคลในศาสนา ได้แก่ พระสงฆ์ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา เจ้าหน้าที่วัด และสาธุชน
๓. ศาสนวัตถุ คือ สมัยที่เป็นวัตถุ ตั้งแต่พระพุทธรูป โต๊ะ เก้าอี้ เครื่องใช้ทุกอย่างที่เป็นของวัด
๔. ศาสนสถาน ได้แก่ โบสถ์ วิหาร ศาลา ฯลฯ
๕. ศาสนพิธี ได้แก่ พิธีกรรมต่าง ๆ
เราเป็นพุทธศาสนิกชน มีหน้าที่ช่วยกันป้องกันดูแลไม่ให้เกิดความเสียหายแก่พระศาสนาได้ดังนี้
ศาสนธรรม - หากมีใครเข้าใจธรรมะผิดหรือปฏิบัติผิดพลางไปอย่างใด เรามีหน้าที่ชี้แจงให้ถูกต้อง มิเช่นนั้นพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์จะถูกบิดเบือนไป
ศาสนบุคคล - การที่เราไปวัด พบเห็นใครมีความประพฤติดีปฏิบัติไม่ค่อยจะดี ขอให้ช่วยกันเตือนโดยเฉพาะถ้าเป็นเจ้าหน้าที่ของวัด แต่พระภิษุ สามเณร ถ้ากระใจไม่กล้าก็เตือนโดยตรง ขอให้คุยแบบนอกหลวงพ่อด้วย จะได้แก้ไขไปไม่ได้ให้เป็นที่ศรหาได้
ศาสนวัตถุ - ของใช้ภายในวัดเป็นสมบัติวัดพระพุทธศาสนา ได้มาจากศรัทธาของสาธุชนที่เขาทำบุญ เงินทุกบาททุกสตางค์เขาจำเป็นหรืออิฐฐานถวายพระ ฉะนั้นขอให้ระวัง ใช้เสร็จแล้ว ช่วยกันเก็บรักษา โดยเฉพาะภาวโต๊ะ เก้าอี้ ถ้าทำตกแดดตกฝน อีกไม่กี่นาที ชำรุด แม้กระทั่งเสื้อก็เช่นกัน ถูกฝนแล้วของเปื่อยรุนรามาใช้งานไม่ได้ ใครเขามาเห็นเข้าก็หมดศรัทธา ขนาดสมบัติเท่านี้ เราชาวพุทธยังรักษาไม่ได้ นับประสาอะไรกับสมบัติดิน ดั่งนั้นขอให้พวกเราช่วยกันดูแลสมบัติวัดจนถึงให้ช่างลงไปใช้งานไปได้นา ๆ
ศาสนสถาน - เราไปวัดต้องช่วยกันดูแลความสะอาด เพื่อความเจริญตาเจริญใจ ทั้งขยะในที่ที่จัดไว้ให้ ไม่ว่าความสกปรกให้บ่อบึ้ง วิหาร ศาลา จึงได้ชื่อว่ารักษาศาลสถาน
ศาสนพิธี - เมื่อมีพิธีในวัดสำคัญทุกพุทธบริษัท ขอให้ร่วมพิธีด้วยความเคารพ ไม่ส่งเสียงรบกวนอัน แต่งกายให้สุภาพ รวมทั้งไม่ควรใช้เครื่องหอม เพราะกลิ่นอาจไปรบกวนบุคคลใกล้เคียงได้ เวลากรอม แต่คนอื่นบางคนไม่ชอบกลิ่นนี้ ถึงขนาดวิ่งเขียนคิ์สไปก็มี
ถ้าใครทำได้ดังนี้ นับว่าเป็นการสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองไปอีกนาน และจะเป็นนิตย์ติดตัวไปทุกๆ ทุกทุกชาติ ชื่อเสียง เกียรติยศ และทรัพย์สมบัติของเราก็จะมีคุณค่าปกป้องรักษาไว้ให้ เพราะผลบุญที่เราได้ปกป้องรักษาทรัพย์สมบัติ และชื่อเสียงของพระพุทธศาสนาและของผู้อื่นมาก่อนนั่นเอง.. (อ่านต่อฉบับหน้า)