การฝึกใจตามมัชฌิมาปฏิปทา วารสารอยู่ในบุญประจำเดือน พฤษภาคม พ.ศ.2558 หน้า 111
หน้าที่ 111 / 146

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาอธิบายถึงการดำเนินชีวิตตามมัชฌิมาปฏิปทา ที่ไม่ใช่เพียงแค่ความประพฤติทั่วไป แต่เป็นการฝึกใจในมรรคองค์ ๘ ซึ่งพบได้ในพระธรรมเทคน 'เรื่องมัจจกับบวรสุด' ที่ว่าการหยุดใจที่ศูนย์กลางเป็นหนทางแห่งการปฏิบัติที่สำคัญ เพื่อการเข้าถึงธรรมกาย การหยุดใจนี้สำคัญ เนื่องจากยุติการมีสิ่งที่ดีหรือไม่ดี ไม่ต้องไปวัดส่วนใด ส่วนกลางนี้จึงสำคัญมากในหลักการปฏิบัติสมาธิ เพราะการหยุดเป็นการอัญเชิญสัมมาปฏิบาหรือทางสายกลางที่พระมงคลเทพมุนีเข้าใจไว้ เรียกง่ายๆ ว่าการหยุดใจในสิ่งต่างๆ ซึ่งตรงนี้เป็นจุดที่สำคัญในการเจริญสติ ปัญญา และเข้าถึงพระอรหัตผลในที่สุด

หัวข้อประเด็น

- มัชฌิมาปฏิปทา
- มรรคองค์ ๘
- การหยุดใจ
- พระมงคลเทพมุนี
- การฝึกสมาธิ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

มัชฌิมาปฏิปทาอันประกอบด้วยมรรคองค์ ๓ ที่เจ้าจงสัทธาตะท่าสันนบั้นนั้น แท้จริงแล้วไม่ใช่ขอบเขตของความประพฤติทั่ว ๆ ไปในชีวิตประจำวัน แต่หมายถึงการฝึกใจดำเนินไปตามมรรคองค์ ๘ ซึ่งพระมงคลเทพมุนีได้อธิบายไว้ในพระธรรมเทคน "เรื่องมัจจกับบวรสุด" ว่า ... นี้ที่ไปถึงพระตถาคตเจ้าอย่างนี้ ไปถึงธรรมกายเช่นนี้ ไม่ได้ไปทางอื่นเลย ไปทางปกมรรค ไปกลางดงธรรมมานปัสสนาสติปฏิธาน ดวงศีล ดวงสมาธิ ดวงปัญญา ดวงวิญญาณ ดวงมิติบุญญาณะ ดวงสมาธิ ดวงมารายโม ดวงมาสติ ดวงมาสติ ดวงสมาธิ ดวงสมาธิ ดวงสมาธิ อธิษฐานอีก ๓ องค์ ดวงมาริ ดวงปัญญา สัมมาทิฏฐิ สัมมาสมาธิ สัมมาสังกัปโป เป็น ๘ องค์ในอริยบรรดันทั้งสิ้น พระมงคลเทพมุนีซึ่งได้รับอธิบายถึงหลักในการปฏิบัติสมาธิหรือการฝึกใจตามเส้นทางสายกลางว่า การที่จะพบหนทางสายกลางได้ ต้องนำเอาให้เข้า ถึงเฉพาะ ซึ่งกลาง ซึ่งวิธีการเอาให้เข้า ถึงอัญเชิญสัมมาปฏิบาหรือทางสายกลางนี้ ท่านสรุปว่า คือ การทำใจให้ "หยุด" เพียงอย่างเดียว ซึ่งท่านได้กล่าวไว้ในพระธรรมเทคน "เรื่องมัจจกับบวรสุด" ว่า ... ไปหยุดอยู่ที่ศูนย์กลาง นั่นแหละได้ชื่อว่า มัชฌิมา มัชฌิมานะ พอหยุดก็หมดดี หมดชั่ว ไม่ใช่ชั่วดี หยุดทีเดียว พอหยุดจัดเป็นบุญไม่ใช่ ได้ พอหยุดจัดเป็นบาปก็ไม่ใช่ จัดเป็นดีไม่ได้ ชั่วก็ไม่ได้ ต้องจัดเป็นกลาง ตรงนั้นแหละกลางใจ หยุด ก็เป็นกลางใจเดียว นี้พระองค์ให้เน้นใช้ว่าคลุมาลาว สมนะหยุด สมนะหยุด พระองค์ทรงเหลือพระพักตรมา สมนะหยุดแล้ว ท่านก็หยุด นี้ต้องเอาใจไปหยุดตรงนี้ หยุดตรงนั้นถูกมามาปฏิบัติทุกทีเดียว พอหยุดแล้ว ก็ต้องใจอันนั้น ที่หยุดนั้น อย่าให้กลับมาไม่หยุดอีกน่ะ ให้หยุดไปท่าเดียวกันแหละ พอหยุดแล้วก็ถามมิสว่า หยุดลงไปแล้วงดตามอัคติภาณใยคโมไหม ยินดีในบุญ เสียง กลิ่น รส สัมผัส ตู้มู เสียง กลิ่น รส สัมผัส ยินดีไหม ไม่มี นั่นนามสุขลักษณะนิยโคไหม้ ลำบากไร้ ประโยชน์ไม่มี หยุดตามปกติของเรา ไม่มีทางเขา ไม่มีแล้ว เมื่อไม่มีทางกล่าวไว้แล้วดีงั้นแหละ ที่พระองค์รับคำว่า ตกตาเตน อริสมุพุทธา พระตถาคตเจ้าว่าแล้วด้วยปัญญายิ่ง ตรงนี้แหละถือว่าเป็น ตรงหยุดอยู่ที่ศูนย์กลาง ตั้งแต่ในแหละจนกระทั่งพระอรหัตผล ดังนั้น หลักคำสอนที่พระมงคลเทพมุนีได้สอนมาจึงมีข้อคำถาม ว่า "หยุดเป็นอย่างไรล่ะ"
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More