ข้อความต้นฉบับในหน้า
จากการค้นค้นเมืองเป็นอาณาจักรในเขตจังหวัดปัตตานี พบพระสุจลำลองและขึ้นส่วนแตกหักมากมา ตัวอย่างจากองค์พระอลองดินเผาที่ค่อนข้างสมบูรณ์มีรอยอักษรปสละภาษา สันสนกฤถเป็นคำว่า เย เม้มมา... และได้พบพระพิมพ์ดินเผาเป็นจำนวนมาก ด้านหน้เป็นพระพุทธรูปประดับด้วยเจดีย์ทั้ง 2 ข้าง ข้างละองค์ กลุ่มจักรและโบรวัตแต่นี้นับถึงการรับนับนั้นเมื่อเป็นพระพุทธศาสนา นิกายเจดียวดาหรือไตตะ อันเป็นสาขาของนิกายมหาสมิกะ
อักษรปลาสะที่ปรากฏในจารึกในพุทธศตวรรษที่ 11-12 นั้น ผลได้ประดิษฐเป็นอักษรมอญโบราณสายหนึ่ง ซึ่งพัฒนาต่อไปเป็นอักษรพันา อักษรธรรมของล้านนา อักษรธรรมล้านช้าง และอักษรธรรมอีสาน และอักษรหนึ่งพัฒนาเป็นอักษรขอมโบราณ ซึ่งเป็นต้นแบบของอักษรขอมในกัมพูชา อักษรขอมในไทย และอักษรไทย หลักฐานทางพระพุทธศาสนาที่ใช้ อักษรอุโบสถบาล คือ ศิลาจารึกพระเจ้าสวรรคิสิทธิ 1 (วัดดอนแก้ว) จารึกด้วยภาษา มอญโบราณและภาษาบาลี พบทิ้งจังหวัดลำพูนซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางอาณาจักรพระพุทธศาสนาก่อนเนื้อหาในจารึกกล่าวถึงพระเจ้าสวรรคิสิทธิ กษัตริย์หริ่งทรงสถิตอยู่ในวัดเมื่อพระชนมายุได้ 62 พรรษา และเมื่อพระชนมายุได้ 13 พรรษา โปรดเกล้าฯ ให้สร้างกฐินและเสนานะแต่พระภิกษุสงฆ์ อีกทั้งให้สร้างพระไตรปิฎกว่า และกล่าวถึงการสร้างพระเจดีย์โดยพระเจ้าสวรกิจสิทธิ พระยา 2 พระองค์ พระบรมวงศานุวงศ์ และพระโอรส สังพระเดียรที่สร้างมีจำนวน 3 องค์ ตั้งอยู่ด้านหน้าวัดเซตวน เรียงตามแนวจากทิศตะวันออกไปทางทิศตะวันตก เมื่อพระชนมายุได้ 12 พรรษา เสด็จออกพนวด้วยพระราชโอรส โดยมีพระมหากษัตริย์ครูเป็นประธานในการพนวจาริกหลังก้าว ยังคงแสดงว่า อาณาจักรกัณฑลิน นิธอปฏิบัติจากคติพระพุทธศาสนาครวทแบบเดียวกับที่นิธอปฏิบัติในสังคมชาวบอกในพม่ และในพุทธศตวรรษพระเจาโบราณช่วงพุทธศตวรรษที่ 17 ซึ่งมีดินนิยมที่พระมหากัณฑลินะเล็ดจ่อมานอารฎา