ข้อความต้นฉบับในหน้า
นอนหนูนตถกโยมแม่ ฟังท่านเล่าน่าทาน เนื้อในน่าทานส่วนใหญเป็น คติธรรมทั้งนั้น เรื่องความเศร้าบ้าง ความตื้นบ้าง ความเสียสะ บาง อย่างท่านก็นำมาจากหนังสือที่ท่านอ่าน ตัวเราก็ว่าเมื่อไรจะอ่าน หนังสือออก จะได้ไปอ่านให้นำใจเลย พอขึ้น ป.1 เริ่มจะอ่านหนังสือ ออก ก็รีบไปหาอ่านหนังสือออก แรก ๆ หนังสือที่อ่านก็ยังจะเป็นนินทาน ก่อนนอนตามประสาเด็ก ต่อมาเป็นนิยายกำลังภายใน นิยายไทย นิยาย จีนก็อ่าน อ่านมากเข้าก็อย่ ๆ พัฒนาต่อไปจนถึงเรื่องในชิงพงศาจาธามก็คอย เฉลย เปาปุ้นจิ้นเอ้ย ช่องกังเอ้ย ก็อ่านไปเรื่อย ๆ จนถึงรามเกียรติ ตามด้วยขุนช้างขุนแผน ก็อ่านพัฒนาไป พออ่านมาเข้า ๆ จะมีความคุ้นเคยกับการอ่านโดยไม่จำกัดอยู่เฉพาะนิยายทั่ว ๆ ไป แต่เริ่ม เข้าสู่หนังสือที่เป็นวิชาการและมีสารมากขึ้น ๆ
ตอนย้ายบ้านจากทางใต้ไปอยู่อีสานนคร ตอนนั้นเพิ่งเริ่ม ป.4 และกำลังจะขึ้น ป.5 จำได้ว่าวันที่ไปโรงเรียนวันแรกเมื่อรู้จักเพื่อน ที่เป็นคนท้องถิ่น ประโยคแรกที่ถามเพื่อนคือ ห้องสมุดประชาชนของ จังหวัดสกลนครอยู่ที่ไหน เพราะไปดูห้องสมุดของโรงเรียนแล้วพบว่า มีหนังสืออยู่นิดเดียว จึงอยากจะไปห้องสมุดประชาชน เพราะคิดว่า น่าจะมีหนังสือมากกว่า แต่ถามเพื่อน ๆ แล้วไม่มีใครรู้เลยว่าห้องสมุดประชาชนอยู่ที่ไหน จึงต้องตั้งคำถามรอบเมือง หาที่อยู่ เป็นสิบคำถามสุดท้ายก็พบอยู่ในอาคารหลากหลายฉากของจังหวัด เห็น แล้วก็คิดวิจารณ์เข้าไปทันที จากนั้นทุกเสาร์-อาทิตย์จะไปลูกอยู่แต่ใน ห้องสมุด 8 โมงครึ่งปอเลแล้ว พอบรรเทา รักมันก็เข้าไป