การกำจัดทุกข์ผ่านอริยมรรคมีองค์ ๘ วารสารอยู่ในบุญ ประจำเดือน เมษายน พ.ศ.2555 หน้า 84
หน้าที่ 84 / 132

สรุปเนื้อหา

โลกนี้ถูกมองว่าเป็นคุกยักษ์ที่กักขังสัตว์ในวัฏสงสาร ผู้คนส่วนใหญ่เผชิญกับทุกข์ทรมานโดยไม่รู้ความจริง ขณะที่ แม้เทคโนโลยีจะก้าวไกล แต่การแก้ปัญหาทุกข์ยังไม่ถึงระดับการกำจัดกิเลส พระพุทธศาสนาเสนอวิธีการผ่านการปฏิบัติอริยมรรคมีองค์ ๘ ซึ่งเป็นทางเลือกที่เปิดกว้างสำหรับทุกคนในการดับทุกข์และกิเลส โดยตัวอย่างจากสุภัททปริพาชกที่มาถามพระพุทธเจ้าถึงการดับทุกข์นั้นยืนยันได้ว่าอริยมรรคสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หัวข้อประเด็น

- อริยมรรคมีองค์ ๘
- การกำจัดทุกข์
- ความรู้ทางวิทยาศาสตร์
- พระพุทธศาสนา
- สุภัททะปริพาชก

ข้อความต้นฉบับในหน้า

๘๒ ภพชาติใหม่ ก็ต้องเริ่มต้นหาความรู้แบบเดิมซ้ำอีก ชีวิตของผู้คนในโลกนี้ต้องตกอยู่ใน สภาพการณ์เช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จึงกล่าวได้ว่าแท้ที่จริงแล้วโลกใบนี้ ก็คือ คุกยักษ์ที่กักขัง สรรพสัตว์ทั้งหลายให้เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฏสงสารนั่นเอง จะมีสักกี่คนที่รู้ความจริงเรื่องนี้ เพราะเหตุที่ผู้คนส่วนมากไม่รู้ความจริงเรื่องนี้ จึงยอมทนทุกข์ทรมานอยู่ในคุกยักษ์นี้ ชั่วกาลนาน ปัจจุบันแม้ชาวโลกจะมีความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีก้าวไกลไปกว่ายุคใด ๆ ในประวัติศาสตร์ก็ตาม แต่ก็ยังอยู่ในระดับของการแก้ปัญหาทุกข์จากการดำรงชีพกับการ แก้ปัญหาทุกข์จากการอยู่ร่วมกัน ยังไปไม่ถึงการแก้ปัญหาทุกข์จากอำนาจกิเลส นั่นคือยัง คงเป็นความรู้ที่ไม่สามารถกำจัดกิเลสได้สำเร็จนั่นเอง อย่างไรก็ตาม พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาเดียวในโลกเท่านั้น ที่มีคำสอนเรื่องการ กำจัดทุกข์ครอบคลุมทุกระดับ และเป็นศาสนาเดียวในโลกเท่านั้น ที่มีคำสอนสำหรับการ กำจัดกิเลสโดยตรง ซึ่งได้แก่คำสอนเรื่องอริยมรรคมีองค์ ๘ พระบรมศาสดาก็ทรงตรัสรู้สัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยการ ปฏิบัติอริยมรรคมีองค์ ๘ พระสาวกก็บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์และพระอรหันตเถรีด้วย การปฏิบัติอริยมรรคมีองค์ ๘ โดยสรุป ก็คือ พระบรมศาสดาและพระอรหันตสาวกทั้งหลาย ของพระองค์ล้วนดับทุกข์ดับกิเลสได้ด้วยการปฏิบัติอริยมรรคมีองค์ ๘ ทั้งสิ้น สิ่งที่น่าอัศจรรย์ก็คือ การหมดกิเลสตามคำสอนในพระพุทธศาสนานั้น มิได้ผูกขาด เฉพาะพระบรมศาสดาเท่านั้น แต่ยังเปิดกว้างสำหรับทุกคนในโลกนี้ให้หมดกิเลสตามได้ เช่นเดียวกัน ซึ่งก็หมายความว่า อริยมรรคมีองค์ ๘ นี้ เป็นเส้นทางปฏิบัติอันเป็นของกลาง ของโลก ที่ใคร ๆ ในโลกนี้เมื่อได้ปฏิบัติแล้ว ก็จะสามารถดับทุกข์ดับกิเลสได้เช่นเดียวกับ พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ดังมีเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วในสมัยพุทธกาล กล่าวคือ ปริพาชกผู้มีนามว่า สุภัททะ เขา เป็นนักบวชนอกพระพุทธศาสนา ตลอดชีวิตนักบวชที่ผ่านมา เขาได้แสวงหาคำสอนเรื่อง การกำจัดทุกข์จากสำนักของลัทธิคำสอนอื่น ๆ นอกพระพุทธศาสนา ตั้งแต่วัยหนุ่มจนเข้า สู่วัยชราก็ยังไม่พบ ต่อมาวันหนึ่ง เขาจึงนึกขึ้นได้ว่า ยังเหลือแต่พระบรมศาสดาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์เดียวเท่านั้น ที่เขายังไม่ได้ทูลถามถึงเรื่องการดับทุกข์ จึงตัดสินใจรีบเดินทางไป เข้าเฝ้าพระพุทธองค์ เนื่องจากขณะที่เขาไปถึงนั้นใกล้เวลาที่พระพุทธองค์จะเสด็จดับขันธ ปรินิพานแล้ว แม้เขาจะขออนุญาตถึง ๓ ครั้ง แต่พระอานนท์ พุทธอุปัฏฐาก ก็ไม่อนุญาต ให้เข้าเฝ้า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงได้ยินถ้อยคำเจรจาระหว่างบุคคลทั้งสองชัดเจน ขณะเดียว กันก็ทรงเห็นอุปนิสัยแห่งการบรรลุอรหัตผลของสุภัททปริพาชก จึงมีพุทธานุญาตให้เขาเข้า เฝ้า เพื่อทูลถามปัญหาที่สงสัยมาตลอดชีวิต สุภัททปริพาชกกราบทูลถามว่า “เจ้าลัทธิอื่นทั้งหมด (ในสมัยพุทธกาล) รู้ตามที่ตน
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More