การปฏิบัติอริยมรรคมีองค์ ๘ วารสารอยู่ในบุญ ประจำเดือน เมษายน พ.ศ.2555 หน้า 85
หน้าที่ 85 / 132

สรุปเนื้อหา

บทสนทนาระหว่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากับสุภัททปริพาชกได้ชี้ให้เห็นว่า การปฏิบัติตามอริยมรรคมีองค์ ๘ เป็นหนทางเดียวที่นำไปสู่การดับทุกข์และบรรลุสภาวะพระอรหันต์ การเข้าถึงธรรมนี้สำคัญต่อการทำให้โลกสว่างไสวโดยการอุทิศชีวิตและปฏิบัติอย่างตั้งใจ เพื่อเข้าถึงความจริงตามที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ และการบวชในพระพุทธศาสนานี้ยังมีคุณค่าต่อการปฏิบัติธรรมในทุกยุคสมัย เพื่อสิ้นทุกข์และกิเลสที่หยั่งลึกในใจเรานั้น.

หัวข้อประเด็น

-การปฏิบัติอริยมรรคมีองค์ ๘
-การขอบวชเป็นพระภิกษุ
-การดับทุกข์ในพระพุทธศาสนา
-การให้คุณค่าคำสอนของพระพุทธศาสนา
-การฝึกตนและสร้างจิตที่มีศักยภาพ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

กล่าวอ้างหรือไม่” พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงปฏิเสธที่จะตอบคำถามนั้น แต่ได้ตรัสบอกให้สุภัททปริพาชก ตั้งใจฟังพระธรรมเทศนาของพระองค์ ดังนี้ “สุภัททะ ในธรรมวินัยที่ไม่มีอริยมรรคมีองค์ ๘ ย่อมไม่มีสมณะที่ ๑ (พระโสดาบัน) ย่อมไม่มีสมณะที่ ๒ (พระสกิทาคามี) ย่อมไม่มีสมณะที่ ๓ (พระอนาคามี) ย่อมไม่มีสมณะที่ ๔ (พระอรหันต์) ในธรรมวินัยที่มีอริยมรรคมีองค์ ๘ ย่อมมีสมณะที่ ๑ (พระโสดาบัน) ย่อมมีสมณะที่ ๒ (พระสกทาคามี) ย่อมมีสมณะที่ ๓ (พระอนาคามี) ย่อมมีสมณะที่ ๔ (พระอรหันต์) สุภัททะ ในธรรมวินัยนี้มีอริยมรรคมีองค์ ๘ สมณะที่ ๑ (พระโสดาบัน) มีอยู่ใน ธรรมวินัยนี้เท่านั้น สมณะที่ ๒ (พระสกิทาคามี) มีอยู่ในธรรมวินัยนี้เท่านั้น สมณะที่ ๓ (พระอนาคามี) มีอยู่ในธรรมวินัยนี้เท่านั้น สมณะที่ ๔ (พระอรหันต์) ก็มีอยู่ในธรรมวินัยนี้ เท่านั้น ลัทธิอื่นว่างจากสมณะทั้งหลายผู้รู้ทั่วถึง สุภัททะ ถ้าภิกษุเหล่านี้เป็นอยู่โดยชอบ โลกจะไม่พึงว่างจากพระอรหันต์ทั้งหลาย จากพระธรรมเทศนาที่ตรัสแสดงแก่สุภัททปริพาชกนี้ ย่อมชี้ชัดว่า มีแต่คำสอนใน พระพุทธศาสนาเท่านั้น ที่สอนเรื่องการกำจัดทุกข์กำจัดกิเลสให้สิ้นไปด้วยการปฏิบัติ อริยมรรคมีองค์ - หลังจากได้รับคำตอบที่รอคอยมาตลอดชีวิตแล้ว สุภัททปริพาชกก็ ขอบวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา ทุ่มชีวิตบำเพ็ญภาวนาปฏิบัติอริยมรรคมีองค์ ไม่นานนักก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ ซึ่งเป็นการยืนยันว่า อริยมรรคมีองค์ ๘ คือวิธี ปฏิบัติเพื่อการดับทุกข์ของบุคคลทั้งปวง ไม่ว่าจะเคยนับถือลัทธิศาสนาใดมาก่อนก็ตาม ถ้าทุ่มเทปฏิบัติตามอย่างอุทิศชีวิตเป็นเดิมพันแล้ว ก็จะสามารถบรรลุมรรคผลนิพพานถึง ความสิ้นทุกข์สิ้นกิเลสดุจเดียวกับพระบรมศาสดาได้แน่นอน ดังนั้น การที่พวกเรามาบวชเป็นพระภิกษุในคราวนี้ ได้กล่าวคำปฏิญาณต่อหน้า พระอุปัชฌาย์ว่าขอออกบวชเพื่อความสิ้นทุกข์สิ้นกิเลสนั้น ก็พึงรู้คุณค่ามหาศาลของคำสอน ในพระพุทธศาสนาที่มีต่อโลกทุกยุคทุกสมัย และใช้โอกาสอันมีค่าที่ได้มาบวชอยู่ใต้ร่ม กาสาวพัสตร์ เป็นพุทธบุตรของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในวันนี้ หมั่นฝึกตน ทนหิว บำเพ็ญ ตบะ ทุ่มเทชีวิตจิตใจให้แก่การเจริญภาวนา ปฏิบัติอริยมรรคมีองค์ ๘ อย่างอุทิศชีวิตเป็น เดิมพัน ตามรอยพระบรมศาสดาให้เต็มที่ ไม่นานนักก็จะได้รู้แจ้งในธรรมที่พระองค์ตรัสรู้ อย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้น โลกก็จะพลันสว่างไสวไปกับการเข้าถึงธรรมของเราด้วย ความสับสนวุ่นวายด้วยทุกข์จากการดำรงชีพ ทุกข์จากการอยู่ร่วมกัน ทุกข์จากอำนาจกิเลส ก็จะถึงคราวสงบลง ดังที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า “ภิกษุใดแลยังหนุ่มแน่น ย่อมประกอบขวนขวายในพุทธศาสนา ภิกษุนั้นย่อมทำโลก นี้ให้สว่างไสว เหมือนดวงจันทร์พ้นจากเมฆฉะนั้น” 2 มหาปรินิพพานสูตร, ที. ม. ๑๐/๒๑๔/๑๖๒ (มจร.) 3 สุมนสามเณรวัตถุ, ขุ. ธ. ๒๕/๓๔๒/๑๕๒ (มจร.) (อ่านต่อฉบับหน้า) Ca
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More