ข้อความต้นฉบับในหน้า
๑๐๖
บาลีน่ารู้
เรื่อง : ธรรมรักษ์
ochrym
สัมม
สมมุ
สม
สัม
สัมมาอะระหัง
ตอน : พุทธานุสติเพื่อการเข้าถึงธรรม
ผนทน์ จปล จิตต์ จิตของคนนั้น มีธรรมชาติกวัดแกว่งเคลื่อนไหวแวบไป
แวบมาอยู่ตลอดเวลา แสงที่ว่าเดินทางเร็วที่สุด แต่จิตของคนเราเดินทางเร็วไวยิ่งกว่า
การทำใจให้หยุดนิ่งอยู่กับที่ เพื่อให้ก่อเกิดเป็นพลังใจที่ทรงอานุภาพ ต้องอาศัยการ
ภาวนาควบคู่ไปกับการทำสมาธิ
คำบริกรรมภาวนา สัมมาอะระหัง เป็นถ้อยคำมหัศจรรย์ที่น้อมใจไปถึงการ
เจริญพุทธานุสติ มีพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ เมื่อภาวนาบ่อย ๆ จะทำให้จิตตื่น เป็น
จิตสว่าง ไม่จมปลักอยู่กับความมืด มีความพอใจที่จะปฏิบัติธรรมสืบต่อไป ธรรมดา
บุคคลเราถ้าไม่มีอะไรยึดแล้ว จิตย่อมคอยแต่จะฟุ้งซ่าน จิตจึงต้องมีพุทธคุณยึด
เมื่อมีพุทธคุณยึดแล้ว จะหลับหรือตื่น จิตย่อมอยู่ในการรักษาทั้งนั้น เพราะพุทธานุภาพ
ย่อมรักษาคนที่มีสติระลึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์อยู่เป็นนิจ ดังพุทธภาษิตว่า
“สุปปพุทธ ปชฺชฌนฺติ สทา โคตมสาวกา
เยส์ ทิวา จ รตฺโต จ นิจฺจํ พุทฺธคตา สติ
พระสาวกของพระโคดม มีสติส่งไปถึงพระพุทธเจ้าทั้งวันทั้งคืน จะหลับหรือตื่น
ชื่อว่าตื่นดีแล้ว”
พุทธานุสติเป็นสิ่งที่เมื่อตรึกระลึกนึกถึงแล้วจะก่อให้เกิดความสุขใจแก่ผู้ปฏิบัติ
ธรรม ดังนั้นหลวงปู่วัดปากน้ำจึงพร่ำสอนอยู่บ่อย ๆ ว่าให้มีพระพุทธคุณเป็นอารมณ์
แม้จะยังไม่บรรลุอริยผลเบื้องสูง แต่รับรองว่าตายแล้วก็ไม่ตกนรก ดังพุทธภาษิตว่า
“ชนเหล่าใดถึงพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ ชนเหล่านั้นจักไม่ไปสู่อบาย เมื่อละสังขารแล้ว
จะไปเพียบพร้อมอยู่ในเทวสมาคม
หลวงปู่วัดปากน้ำท่านสอนให้บริกรรมภาวนาว่า “สัมมาอะระหัง” เพราะ “สัมมา
อะระหัง” เป็นอมตวาจา...เป็นถ้อยคำศักดิ์สิทธิ์ที่จะช่วยทำให้ใจที่วิ่งกลับนิ่ง
จากกวัดแกว่งมาเป็นหยุดได้สนิท ...จากฟุ้งซ่านมาเป็นนิ่งสงบ
จากที่เคยมืดมนมาเป็นดวงใจที่สว่างไสว และจากใจที่ขุ่นมัวกลายมาเป็น
ใจที่ผ่องใส
“สัมมาอะระหังเป็นนิจ จิตแจ่มใส”
สมมายะ
เระหง
ะระหง
อะระหัง
อะระห
สัม
สัมมาอะระหัง สัมมาอะราง สัม