ข้อความต้นฉบับในหน้า
จะกลายเป็นการไปแข่งกัน ไม่เกิดประโยชน์เท่าที่
ควรจะเป็น ขอให้มุ่งไปที่ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นจาก
กิจกรรมที่ไปร่วมมากกว่า
ในช่วงเปิดเทอมเด็กไม่มีเวลาอยู่กับพ่อแม่
พอปิดเทอมก็ต้องไปค่ายอีกแล้ว บาง
ครั้งเด็กอาจจะอยากอยู่กับพ่อแม่บ้าง
พ่อกับแม่ควรจะบอกกับลูกอย่างไรดี
เรื่องนี้คิดว่าน่าจะคุยกันได้ เพราะไม่ได้จำเป็น
ว่าถึงซัมเมอร์แล้วลูกจะต้องไปนั่นไปนี่ตลอด ถ้าเด็ก
อยากอยู่บ้านบ้างก็เป็นสิ่งที่ดี พ่อแม่จะได้ให้ลูกช่วย
ดูแลงานบ้านบ้างตามวัยของเขา อย่างนี้เป็นการเข้า
แคมป์ซัมเมอร์ในบ้านเลย ถือเป็นข้อดีอีกอย่างหนึ่ง
เพราะจริง ๆ แล้ว คำว่ากิจกรรมซัมเมอร์ไม่ได้
หมายความว่า ต้องไปเข้าแคมป์เป็นเรื่องเป็นราวแบบ
เป็นหลักสูตรที่เขาจัดขึ้นมาอย่างเดียวเท่านั้น แต่เป็น
การใช้เวลาช่วงปิดเทอมทำสิ่งที่มีประโยชน์มากกว่า
อย่างตอนต้นที่กล่าวไว้ว่า การที่คนเราเรียน
หนังสือมา อยู่ ๆ ไป ก็ลืมเนื้อหาไปเกือบหมด แต่
ที่ได้คือทักษะในการอยู่ร่วมกัน ทักษะการคิด ทักษะ
ในการพัฒนาเรื่องอารมณ์ เพราะฉะนั้นจะเห็นว่า เด็ก
บางคนตอนจบมาเกรดไม่มากเท่าไร แต่ทำงานแล้ว
ประสบความสำเร็จมากกว่าเพื่อนที่จบมาเกรดสูง ๆ
เพราะเขาอาจจะใช้ชีวิตการเรียนอย่างสนุกสนาน มี
เพื่อนฝูงเยอะ ทำกิจกรรมด้วย ถึงคราวเขาก็ประยุกต์
สิ่งที่เขาเรียนรู้จากกิจกรรมเหล่านี้มาใช้ในการทำงาน
และการดำเนินชีวิต ทำให้เป็นคนที่ปกครองคนได้
มีทักษะเรื่องคน ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้สอนอยู่ในโรงเรียน
แต่กลับเป็นทักษะที่เป็นประโยชน์ในการทำงานให้
ประสบความสำเร็จ อย่างนี้เป็นต้น
อาตมาเองสมัยยังเด็ก ๓๐-๔๐
ปีที่แล้ว ตอน
นั้นยังไม่ได้มีแคมป์เยอะอย่างนี้ ถึงคราวซัมเมอร์
ก็ทำแคมป์ของตัวเอง ชวนเพื่อนฝูงที่สนิท ๆ กัน
๖-๗ คน ไปปีนเขา บางทีชวนไปเล่นวอลเล่ย์บอล
เล่นบาสเกตบอล เฮฮาสนุกสนานกันไป ผลคือเรามี
๙๐
วุฒิภาวะทางด้านอารมณ์ สุขภาพร่างกายแข็งแรง
ถึงคราวทำกิจกรรมก็ชวนกันมาทำกิจกรรม มา
รับผิดชอบงานโรงเรียน ตัวอาตมาสมัครเป็นสมาชิก
สภานักเรียน ก็ได้เพื่อนกลุ่มนี้มาช่วยเขียนโปสเตอร์
หาเสียง พอได้รับเลือกตั้งเป็นประธานสภานักเรียน
ก็มาช่วยกันทำงาน และช่วยกันเรื่องการศึกษาเล่า
เรียน แข่งกันเรื่องการเรียน การแข่งกีฬาก็แข่งกัน
ทำกิจกรรมด้วยกัน พัฒนาไปด้วยกัน สิ่งเหล่านี้
เสริมสร้างตัวเองให้เติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์ขึ้น
เราอย่าไปมองว่าต้องเข้าหลักสูตรอย่างเดียว
ให้เด็กใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ให้มีความรับผิดชอบ
ให้ช่วยงานบ้าน ให้มีความรับผิดชอบต่อครอบครัว
เพราะถ้าพ่อแม่เอาใจมาก ๆ เด็กจะมีความรู้สึกว่า
ทุกคนจะต้องมาเอาใจเขา อาตมาเคยเจอเด็กใน
ครอบครัวฐานะดีคนหนึ่ง เขาคิดว่าพ่อแม่ต้องเอาใจ
เขา แต่เผอิญเกิดปัญหาเศรษฐกิจ พอเด็กรู้ว่าพ่อแม่
กำลังลำบาก และมาขอให้เขาช่วยรับผิดชอบอะไร
บางอย่าง เด็กโตขึ้นมาทันทีเลย กลายเป็นคนที่
รับผิดชอบ จากเดิมคอยแต่จะรับการเอาอกเอาใจ
ตอนนี้ถึงคราวต้องเป็นผู้ให้บ้าง ถ้าเด็กคิดอย่างนี้
เมื่อไร โตขึ้นจะเป็นคนที่ใช้ได้ เพราะฉะนั้นการฝึก
ให้ลูกรับผิดชอบมีแต่ดี ไม่มีเสียเลย รักลูกอย่าโอ้ลูก
ความลำาบากไม่เคยทำลายใคร แต่ความสบายจะ
ทําลายคน
เพราะฉะนั้นกิจกรรมซัมเมอร์ทั้งหลายทั้งปวง
ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใดก็ตาม ถ้าจะให้เกิดประโยชน์
ต้องกลับมาสู่เป้าหมายว่าต้องสามารถเสริมสร้างเด็ก
ให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์แบบขึ้น มีวุฒิภาวะ
ทางอารมณ์ มีความหนักแน่นทางจิตใจ มีคุณธรรม
มีหลักยึดเหนี่ยวจิตใจ แล้วทักษะอื่น ๆ เราก็เสริม
เข้าไป แต่ตัวหลักจริง ๆ คือคุณธรรม อารมณ์ที่
หนักแน่น วุฒิภาวะที่พร้อมจะรับผิดชอบ ตรงนี้
ต่างหากที่เป็นตัวกำหนดว่า เมื่อโตขึ้นแล้วจะประสบ
ความสำเร็จและมีความสุขในชีวิตหรือไม่