ข้อความต้นฉบับในหน้า
ปู่ย่าตาทวดของเราจึงสอนว่า “วันใดยังไม่ได้ เมื่อใจเป็นกลางๆ แล้ว นอกจากจะไม่คิด
ตั้งใจรักษาศีล วันนั้นอย่าเพิ่งออกจากบ้าน” เพราะ
ฉะนั้น สัญญากับพระพุทธรูปบนหิ้งเสียก่อน ว่าวันนี้
เราจะรักษาศีล ๕ อย่างเคร่งครัด สัญญาแล้วจึงค่อย
ออกจากบ้านไปทำงานกัน
ถ้าทำอย่างนี้เป็นประจำ ความมีวินัยจะเกิด
จับผิดใคร ยังคิดจับถูกจับดีแทนอีกด้วย เช่น คิดว่า
คุณพ่อคุณแม่มีพระคุณกับเราอย่างไร ครูบาอาจารย์
มีพระคุณกับเราอย่างไร คิดไปจนกระทั่งว่า พระสงฆ์
องค์เจ้าและพระพุทธศาสนามีพระคุณกับเราอย่างไร
ก่อนนอนขอให้นึกถึงความดีของมนุษย์ทั้งโลก
ขึ้นในตัวของเราโดยอัตโนมัติ แล้วนิสัยชอบเอาแต่ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับเราทั้ง 5 ทิศ เมื่อนึกถึงความดี
ใจตัวเองเป็นใหญ่ก็จะคลายไป นี่ก็เป็นที่มาแห่ง
๖
ของคนอื่นได้อย่างนี้ พลังใจที่จะสร้างความดีตาม
ความสามัคคีของคนในชาติ ที่ปู่ย่าตาทวดของเรา คนเหล่านั้น หรือปรับปรุงตัวเองให้ดียิ่งขึ้นจะเกิดขึ้นมา
สอนเอาไว้ประการที่ ๒
ถ้าทำได้ครบทั้ง ๓ ประการนี้ ความสามัคคี
ประการที่ ๓ เนื่องจากมนุษย์จ้องจะจับผิดกัน จะเกิดขึ้นในทุกหย่อมหญ้า บนผืนแผ่นดินไทย
ตั้งแต่เช้าจนกระทั่งเข้านอน ท่านก็เลยเตือนว่าถ้า ของเรา...
อย่างนั้น “คืนใดยังไม่ได้สวดมนต์ภาวนา ยังไม่นึกถึง
ความดีของคนรอบด้าน คืนนั้นอย่าเพิ่งเข้านอน
เพราะฉะนั้น ก่อนนอนหลังจากสวดมนต์ไหว้พระเสร็จ
ก็นั่งสมาธิเสียบ้าง ใจจะได้เป็นกลางๆ