ข้อความต้นฉบับในหน้า
odhoun
ปกิณกธรรม
เรื่อง : พระมหาเสถียร สุวณฺณฐิโต ป.ธ. ๙ / พระมหาวิริยะ ธมฺมสารี ป.ธ. ๙ / ภาพประกอบ : กองพุทธศิลป์
กิเลสท่วมใจ
อุทกภัยท่วมโลก
“ผู้มีปัญญา จึงทำเกาะที่ห้วงน้ำท่วมไม่ได้
ด้วยความขยันหมั่นเพียร ด้วยความไม่ประมาท ด้วยความระวัง และด้วยการฝึกตน
ในปัจจุบันอุทกภัยนับวันจะทวีความรุนแรงขึ้น
กระแสน้ำทะลักเข้าใส่บ้านเรือนพังพินาศ ได้รับ
ความเสียหายกันไปทั่ว ผู้คนไร้ที่อยู่อาศัย นอกจากนี้
ยังเกิดโศกนาฏกรรมแผ่นดินถล่มกลบมนุษย์ทั้งเป็น
ภัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นล้วนมีสาเหตุจากการที่ชาวโลก
ประพฤติผิดศีลธรรม ทั้งหลงใหลในอบายมุข
ทำให้กระแสบาปทวีความรุนแรงมากขึ้น จึงส่งผล
ให้ธรรมชาติแปรปรวนไป จนมีนักโหราศาสตร์
พยากรณ์เอาไว้ว่า ถ้าไม่รีบแก้ไข โลกอาจจะถึง
กาลอวสานได้
เรื่องของโลกาพินาศ ได้มีบันทึกไว้ใน
พระไตรปิฎกว่า โลกนี้จะถูกทำลายด้วยภัย ๓ อย่าง
คือ ถ้ายุคสมัยใดคนมีกิเลสตระกูลโทสะมาก จะเกิด
อัคคีภัยทุกหย่อมหญ้า หากผู้คนมีราคะมาก จะเกิด
อุทกภัย และถ้าคนมีโมหะมาก โลกจะเกิดวาตภัย
ถูกลมพายุทำลายล้าง
ไฟบรรลัยกัลป์ล้างโลก
สมัยที่กัปพินาศเพราะไฟนั้น จะมีเทวดา
ชั้นกามาวจรที่เรียกว่า โลกพยุหะ มาให้สติมนุษย์
อรรถกถากัปปสูตร วิสุทธิมรรค
(พุทธพจน์)
โดยแปลงร่างเป็นคนนุ่งผ้าแดง ปล่อยผมเผ้ารกรุงรัง
ร้องไห้เช็ดน้ำตา เที่ยวเดินประกาศไปว่า “ผู้นิรทุกข์
ทั้งหลาย ล่วงไปแสนปีจากนี้จะสิ้นกัป โลกจะพินาศ
แม่น้ำและมหาสมุทรจะเหือดแห้ง มหาปฐพี ภูเขา
สิเนรุจะถล่มทลายพังพินาศตลอดถึงพรหมโลก
ท่านทั้งหลายจงเจริญเมตตาพรหมวิหารธรรม
ต่อกันเถิด จงบำรุงมารดาบิดา และเป็นผู้อ่อนน้อม
ถ่อมตนต่อผู้มีคุณธรรมเถิด”
เมื่อพวกมนุษย์และเทวดาได้ฟังข่าวที่น่า
สะพรึงกลัวอย่างนี้แล้ว ก็เกิดความสลดสังเวชใจ
กลับมีจิตเมตตา อ่อนน้อมต่อกัน ตั้งใจสั่งสมบุญกุศล
แล้วไปบังเกิดในเทวโลก ส่วนทวยเทพในเทวโลก
ต่างไม่ประมาท บำเพ็ญภาวนาจนได้ฌาน แล้วก็
ไปบังเกิดในพรหมโลก
เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง พระอาทิตย์ดวง
ที่ ๒ ก็ปรากฏขึ้น ทำให้กำหนดกลางวันกลางคืน
ไม่ได้ เพราะโลกสว่างตลอดทั้งวัน สัตว์โลกเริ่ม
ล้มตายกัน น้ำในลำธารเริ่มแห้งขอด ต่อจากนั้น
พระอาทิตย์ดวงที่ ๓ ปรากฏขึ้น ทำให้มหานที
แห้งไปหมด และเมื่อดวงที่ ๔ ปรากฏขึ้น สระใหญ่