ข้อความต้นฉบับในหน้า
ทั้ง ๒ ในป่าหิมพานต์ ซึ่งเป็นต้นแหล่งของมหานที่
เหือดแห้งลงไปอีก ไม่ว่าจะเป็นสระอโนดาตก็แห้งหมด
วันเวลาผ่านไปอีก พระอาทิตย์ดวงที่ ๕ ได้
ปรากฏขึ้นมาอีก โลกเริ่มร้อนระอุมากขึ้น จนน้ำใน
มหาสมุทรไม่มีเหลืออยู่เลย ทันทีที่พระอาทิตย์
ดวงที่ 5 เกิดขึ้น ทั่วทั้งจักรวาลมีควันพวยพุ่งขึ้นมา
บรรยากาศอัดแน่นไปด้วยควันมืดสนิท ครั้นดวงที่ ๒
ซึ่งเป็นดวงสุดท้ายบังเกิดขึ้น ทั่วทั้งแสนโกฏิ
จักรวาลมีเปลวไฟลุกโชติช่วง ภูเขาสิเนรุถูกไฟ
เผาไหม้ เปลวไฟลุกลามไปถึงสวรรค์ชั้นจาตุมหา
ราชิกาไล่เรื่อยไปถึงสวรรค์ชั้นที่ 5 ไหม้ต่อไปอีก
จนถึงพรหมโลก ไปหยุดอยู่ที่พรหมโลกชั้นอาภัสสรา
กันเลยทีเดียว
น้ำบรรลัยกัลป์
สมัยใดที่น้ำทำลายกัปให้พินาศ ฝนจะตก
ไม่หยุดจนน้ำท่วมโลก แล้วฝนน้ำกรดจะตกไปทั่ว
LD
ตลอดแสนโกฏิจักรวาล เมื่อแผ่นดินหรือภูเขาถูก
น้ำกรด จะถูกกัดกินจนละลาย น้ำท่วมมีอานุภาพ
มากกว่าไฟไหม้ จะท่วมเรื่อยไปจนถึงพรหมโลก
ชั้นปริตตาภา อัปปมาณาภา อาภัสสรา ปริตตสุภา
อัปปมาณสุภา ถูกทำลายย่อยยับหมด
ลมบรรลัยกัลป์
ถ้าโลกพินาศเพราะลม จะมีอานุภาพร้ายแรง
ที่สุด สามารถพลิกแผ่นดินแล้วพัดให้กระจายไป
ในอากาศได้ ผืนแผ่นดินกว้างถึง ๑๐๐ โยชน์พัง
พินาศหมด แหลกละเอียดในอากาศ ลมจะหอบ
เอาภูเขาจักรวาล ภูเขาสิเนรุขึ้นไป แล้วซัดให้
กระทบกันจนแหลกละเอียดเป็นผงธุลี แล้วยังพัด
วิมานในสวรรค์ทั้งแสนโกฏิจักรวาลให้พินาศหมด
มหาวาตภัยนี้จะพัดตั้งแต่ในโลกมนุษย์ไปจนถึง
พรหมชั้นสุภกิณหา ไปหยุดอยู่ที่ชั้นเวหัปผลา เมื่อ
โลกถูกทำลาย และได้รับการชำระล้างให้บริสุทธิ์แล้ว