ข้อความต้นฉบับในหน้า
ทุกสิ่งในจักรวาลจะสลายไปสู่ธาตุเดิม ซึ่งต้องใช้
เวลาเป็นกัป ๆ ถึงจะเริ่มก่อตัวกันใหม่ คือเริ่มมีโลก
มีพรหมลงมาเกิด มีดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว
มีสิ่งมีชีวิต มีสัตว์ และสิ่งต่าง ๆ ตามมาอีก มากมาย
มีต้นไม้ มีภูเขาบังเกิดขึ้น
โลกยังไม่แตก
อย่างไรก็ตาม มิใช่ว่าโลกเราจะถึงกาลอวสาน
ในยุคนี้ เพราะตามหลักพุทธศาสนาแล้ว ยังเหลือ
ช่วงเวลาอีกยาวนานเหลือเกิน เพราะโลกยังอยู่ใน
อันตรกัปที่ ๑๒ ซึ่งจะต้องมีการไปขึ้น-ไขลงตามกำลัง
การประพฤติกุศลและอกุศลของมนุษย์ อีกทั้ง
โลกจะถูกทำลายล้างก็ต่อเมื่อเลย ๖๔ อันตรกัป
ไปแล้ว ซึ่งเป็นเวลานานมาก จนไม่ต้องพูดถึงเรื่อง
โลกแตกกันเลย เพียงแต่ว่าขณะนี้เราอยู่ในช่วงกับ
ไขลง กิเลสมนุษย์หนาขึ้นเรื่อย ๆ ทุก ๑๐๐ ปี อายุ
มนุษย์จะลดลง ปี อายุขัยของมนุษย์จะลดลง
1
เรื่อยจนไปถึง ๑๐ ปี สตรีอายุ ๕ ขวบก็ตั้งครรภ์
แล้ว มนุษย์เข่นฆ่ากันเอง ถึงขั้นเกิด “สัตถันตรกัป
คือมีอาวุธเกิดขึ้นในมือและทำลายล้างกันจนแทบ
หมดเผ่าพันธุ์กันเลยทีเดียว ส่วนผู้ที่เห็นภัยก็หลบ
หลีกไปอยู่ตามป่าตามเขา
เมื่อหมดสงครามจึงกลับมาเริ่มต้นประพฤติ
กุศลกรรมบถ ๑๐ ประการเหมือนเดิม ทำให้อายุ
เริ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ใหม่ จนกระทั่งอายุมนุษย์มีกำหนด
- หมื่นปี สตรีมีอายุ ๕๐๐ ปี จึงมีครอบครัว เวลา
นั้นมีความทุกข์อยู่เพียง ๓ อย่าง คือ ความหิว
ความง่วง และความแก่ ผู้คนยิ่งทำความดีเพิ่มขึ้น
อายุยิ่งทวีตาม จนกระทั่งมีอายุอสงไขยปี ในสมัย
มนุษย์มีอายุอสงไขยปี มองเห็นความแก่ ความตาย
ได้ยาก ความเจ็บไม่มี เลยทำให้เกิดความประมาท
เวียนเป็นวัฏจักรของมนุษย์ในยุคต้นกัปใหม่ เมื่อมี
กิเลสเกิดขึ้น อายุมนุษย์ก็เริ่มลดลงจนเหลือ 6 หมื่นปี
เมื่อนั้นพระศรีอริยเมตไตรย์จะเสด็จมาอุบัติขึ้นในโลก
&