ขันลอยกับอารมณ์ขันในยามวิกฤต วารสารอยู่ในบุญ ประจำเดือน พฤศจิกายน พ.ศ.2554 หน้า 88
หน้าที่ 88 / 112

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาเน้นการใช้ขันเป็นสัญลักษณ์ของข้อมูลและอารมณ์ขันที่สร้างสรรค์ในเวลาที่ประสบปัญหา น้ำท่วมทำให้เกิดกิจกรรมทางสังคมที่นำความบันเทิงและความหวังมาให้ โดยเฉพาะการสร้างสรรค์ดนตรีและการช่วยเหลือกันของคนในชุมชน เพื่อเปลี่ยนความยากลำบากเป็นน้ำใจ ถ่ายทอดผ่านการแสดงและกิจกรรมที่สร้างเสียงหัวเราะ รวมถึงการสำรวจความสามัคคีและกำลังใจที่เกิดขึ้นจากความทุกข์ยาก ผ่านวิธีที่แปลกใหม่และให้ความสุขในยามที่ชีวิตไม่ปกติ.

หัวข้อประเด็น

-อารมณ์ขันในวิกฤต
-ขันเป็นสัญลักษณ์
-การบรรเทาความทุกข์
-ดนตรีและการช่วยเหลือ
-ความสามัคคีในชุมชน

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ที่ผ่านมาสิ่งหนึ่งที่ผมเลือกเก็บนั้นคือ “ขัน” ที่ลอยมากับสายน้ำ คิดว่าสิ่งนี้ไร้สาระ ไม่มีประโยชน์ จวบจนเมื่ออารมณ์ขันช่วยให้บรรยากาศผ่อนคลาย กระตุ้นสติและกำลังใจในตัวกลับคืนหลังจากที่ได้หัวเราะและยิ้มออกมา ให้ ขันหลายใบที่ลอยมาอยู่ในระบบโซเชียลเน็ตเวิร์ก เป็นข้อมูลเรื่องราวต่าง ๆ ที่ส่งต่อ ๆ กันเป็นลูกโซ่ ทุกข้อความล้วนสร้างสรรค์มาจากอารมณ์ขันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเพลงแปลงที่แสบ ๆ คัน ๆ หรือบทสนทนาที่นำธรรมชาติมาคุยโต้ตอบกันระหว่างน้องน้ำกับพี่เมืองกรุง น้องกระสอบ ทรายและพี่ทะเล เป็นเรื่องราวสนุกน่าติดตาม หากมองข้ามพ้นเรื่องเหน็บแนมและเสียดสี ปฏิเสธ สิ่งที่คิดว่าไร้สาระเหล่านี้ได้ช่วยกู้อารมณ์ของเราให้ดีขึ้นจากเดิม ไม่ได้เลยว่า อารมณ์ขันอีกส่วนหนึ่งมาในรูปของภาพถ่าย บางภาพเมื่อเห็นแล้วถึงกับต้องหัวเราะก๊ากออกมา ทั้งหมดล้วนเกิดจากพี่น้องผู้ประสบภัยที่ได้ใช้ความขบขันบรรเทาความทุกข์ของตนให้เป็นความบันเทิง ขันอีกใบหนึ่งมาในรูปของบทเพลงที่ศิลปินต่าง ๆ ได้ใช้ความสามารถที่มีมาช่วยปลอบขวัญ ให้มีกำลังใจสู้ชีวิต ผลงานหนึ่งที่ร่ำรวยอารมณ์ขันนั่นคือ กลุ่มคนดนตรีที่ได้รวบรวมเอาศิลปินและ ผู้ประสบภัยจากพื้นที่จริงมาร่วมสร้างสรรค์ในงานเพลง เปลี่ยนน้ำท่วมให้เป็นน้ำใจ ภาพในมิวสิกมีความขำบรรจุอยู่เต็มขัน บ้างต้องหนีน้ำขึ้นไปยืนร้องบนหลังคา บางคนก็หลบ มาร้องกันที่ริมตลิ่ง หนักกว่านั้นไปไหนไม่ได้ก็สู้ยืนแช่และนั่งแช่ร้องกันในน้ำ ผสมผสานกับนักดนตรี หลากหลายทั้งเครื่องดนตรีพื้นบ้าน ร่วมกับเครื่องดนตรีร่วมสมัย ดีดกีตาร์กันในเรือ ตีขิมริมคลอง เป่าขลุ่ยลุยน้ำ ใส่ขาสั้นเป่าแซ็ก เป็นภาพบรรยากาศที่ไม่อาจทำได้ในยามภาวะปกติ นับเป็นการขับกล่อมจิตใจทุกคนให้พ้นขึ้นมาเหนือน้ำ และยังขับไล่สายน้ำตาให้ไหลไปพร้อม กับสายน้ำ เป็นการใช้อารมณ์ขันสร้างสรรค์ให้เกิดกำลังใจและความสามัคคี ส่งผลให้มั่นใจว่า ดนตรีสามารถเปลี่ยนโลกได้จริง เปลี่ยนความขมขื่น ความทุกข์ ความเศร้า เป็นความเข้าใจและเห็นใจ เปลี่ยนความต่างที่เคยขัดแย้งเป็นความเข้าใจ เปลี่ยนน้ำท่วมให้เป็นน้ำใจได้จริง ๆ ขันใบใหญ่ใบหนึ่งเป็นเรื่องของมวลชนที่ช่วยกันใช้สองมือเล็ก ๆ บรรจุทรายใส่กระสอบจาก ศูนย์กลางวัดพระธรรมกาย แล้วขนไปวางเรียงเป็นทำนบกันมวลน้ำ ต่างทำกันด้วยหัวใจและความ หวังที่ความเป็นจริงไม่น่าจะเป็นไปได้ ทั้งกำลังคน สภาพดินฟ้าอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย รวมกับ อุปสรรคมากมายที่เกิดขึ้นนั้นห่างไกลจากคำว่า “ความสำเร็จ” เป็นอย่างมาก ความยาวตลอด ๘ กิโลเมตรของแนวทำนบกันน้ำคลองระพีพัฒน์ที่ช่วยกันทำในเวลาที่จำกัด จำนวนกระสอบทรายนับแสนนับล้านกระสอบที่ต้องเร่งช่วยกันทำ เพียงแค่คิดก็กลายเป็นเรื่องน่าขัน ที่เกินวิสัย แต่พอเอาเข้าจริง ๆ ความหวังกลับไม่ใช่เรื่องเพ้อเจ้อ มุมขันจากมุมคิดในความสำเร็จที่เกิดขึ้นนี้ อาจเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิตของอาสาสมัคร ทุกคน ที่ปฏิบัติสวนทางจากประเพณีโบราณ จากเดิมเขามีแต่พากันขนทรายเข้าวัด แต่ตอนนี้ทุกคน กลับได้ขนทรายออกจากวัดด้วยความปลื้มปีติ เหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้น ก็มีเรื่องราวดี ที่น่าประทับใจมากมายเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน ๆ ๑๖
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More