ข้อความต้นฉบับในหน้า
หลวงพี่ก็ไม่เคยสนใจเลย
ๆ
ฟันจนตกรถ โดนฟันซ้ำจนเละ เพราะเขากะ
เอาตายจริง ๆ ตอนนั้นเอ็นขาด กระดูกหัก
จนไม่เหลือสภาพ ปางตายแท้ ๆ หามเข้า
ICU พักฟื้นเดือนกว่า ส่วนเพื่อนที่เราไปช่วย
แท้ ๆ รักกันมากมาย หายแซบ ไม่เห็นมา
ดูใจกันเลย แต่คนที่มาหามาดูแลหลวงพี่ที่
โรงพยาบาลคนแรกกลับเป็นโยมพ่อ โยมแม่
ซึ่งเขาก็มาทั้งน้ำตาอีก
ชีวิตหลวงพี่แย่มาตลอด ก่อแต่เรื่อง
ไม่เคยเว้น โยมแม่ก็บ่นว่าหลวงพี่ตลอด และ
ก็คะยั้นคะยอให้หลวงพี่บวชตลอดเวลา แต่
จนวันหนึ่งปัญหามันมารุมเร้าหลวงพี่มากขึ้น ๆ เพราะยิ่งเที่ยวก็ยิ่งทุกข์ รู้สึกชีวิต
มีแต่ความวุ่นวายร้อนรุ่มตลอดเวลา พอจะนอนก็ต้องฝืนหลับไปทั้งที่ใจร้อนรุ่มไม่สงบเลย
จึงตัดสินใจกลับบ้านไปบอกโยมแม่ว่า จะยอมบวชให้ท่าน ตอนนั้นโยมแม่งงมาก ไม่เชื่อที่
หลวงพี่พูดเลย จนต้องหันมาถามย้ำหลาย ๆ ครั้ง
ตอนแรกก็กะจะบวชเองตามวัดทั่ว ๆ ไป แต่โยมแม่เคยมาวัดพระธรรมกาย
ท่านบอกให้เรามาบวชวัดนี้ จะได้ฝึกอะไรมากกว่า หลวงพี่ก็โอเค ตกลงทันทีเพราะคิดว่า
วัดนี้ใหญ่ดี คงรวย บวชแล้วน่าจะสบายที่สุด แต่ที่ไหนได้ พอมาบวชเข้าจริง ๆ ช่วงแรก
รู้สึกอึดอัดกับกฎระเบียบที่สุด ฝึกวินัยเข้มมาก เพราะพระที่นี่บวชแล้วต้องเป็นพระแท้
ต้องทำงาน ต้องนั่งสมาธิ ไม่ใช่เช้าเอน เพลนอน อย่างที่คิดไว้เลย
ช่วงแรก ๆ ก็ท้อมาก ทำฝืนกฎอยู่เหมือนกัน แต่พอมาคิดใหม่ว่า ทำเลวมามาก
อยากจะทำสิ่งดีเพื่อโยมแม่สักครั้ง ทำไมใจไม่รู้ ยิ่งนึกถึงภาพที่โยมแม่น้ำตาไหลเพราะ
ความเลวที่ทำมาตลอด เทียบกับการบวชของหลวงพี่ ที่โยมแม่น้ำตาไหลเพราะ
ความปีติเป็นครั้งแรกในชีวิต การบวชทำให้โยมแม่ไม่ต้องห่วง
หลวงพี่อีกแล้ว ไม่ต้องประสาทหลอนว่า วันนี้ลูกจะไปก่อ
เรื่องอะไร จะถูกแทงตายวันไหน ตอนนี้ตำรวจ
โรงพักไหนจะจับลูกไปอีก ซึ่งช่วงที่หลวงพี่บวช
เป็นช่วงชีวิตที่โยมแม่มีความสุขที่สุด และห่วง
ลูกน้อยที่สุด พอมาคิดอย่างนี้ หลวงพี่ก็ตั้งใจ
ทำดีเพื่อโยมแม่ มาบวชแล้วก็ต้องทำดีที่สุด
ให้โยมแม่ได้บุญสุด ๆ เพราะฉันข้าววัดแล้ว
ก็ไม่อยากได้บาปกลับไป
ๆ