ประสบการณ์ชีวิตและการรักษาโรคด้วยธรรมะ วารสารอยู่ในบุญ ประจำเดือน กรกฎาคม พ.ศ.2552 หน้า 36
หน้าที่ 36 / 96

สรุปเนื้อหา

เรื่องราวนี้เกี่ยวกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ประสบภัยป่วยหนัก โดยที่เธอได้ยินคำสอนจากหลวงพ่อเกี่ยวกับการภาวนาและการปล่อยวาง ซึ่งทำให้เธอพบความสงบใจในขณะที่รอการรักษา และเมื่อถึงที่สุด เธอได้รับการช่วยเหลือจากมิตรสหายที่นำหญ้าแก้โรคมะเร็งมาให้ ในที่สุดเธอเริ่มมีอาการดีขึ้นและเรียนรู้ว่าชีวิตมีคุณค่าแม้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้

หัวข้อประเด็น

-การเรียนรู้ธรรมะ
-การเผชิญหน้ากับความเจ็บป่วย
-ประสบการณ์ชีวิตที่แสดงถึงการปล่อยวาง
-การมองโลกในแง่ดีในสถานการณ์เลวร้าย
-การค้นพบความหมายของชีวิต

ข้อความต้นฉบับในหน้า

66 ใครที่เจ็บไข้ได้ป่วยหนักให้นึกขยายองค์พระให้ขับไล่โรคร้ายไข้เจ็บ ออกไปทุกอณูเนื้อ ทุกขุมขน จิตใจอย่าไปเกาะเกี่ยวอยู่กับลูกหลาน เดี่ยวจะไปไม่ไกลเป็นจิ้งจกตุ๊กแกที่บ้าน พุทโธ” หลวงพ่อบอก “พุทโธก็ได้” ๔) ให้นั่งสมาธิ ๕) ให้ปลงตก ข้อนี้ดิฉันไม่เข้าใจแต่ก็รับปาก จากนั้น ได้ไปวัดอีก ๒ ครั้ง ก็ไปไม่ไหว เพราะอาการหนักขึ้น ท้องโตเพราะตับโต แขนซ้ายบวม มีก้อนซีสต์เท่า ลูกปิงปองเกิดขึ้นที่ข้อมือ ตามข้อนิ้วมือ ตามขา ก็ เริ่มมีแผลพุพองและมีอาการคัน หมอบอกว่า “โรค กระจายไปตามเส้นเลือด ที่คันเพราะตับเริ่มไม่ ทำงาน” แล้วก็ให้ไปเจาะตับ ดิฉันถามว่า “ถ้าเจาะ แล้วหมอจะรับรองผลมั้ย?” หมอก็บอกว่า “คุณต้อง เสี่ยงเอง” ดิฉันเลยตัดสินใจไม่เจาะ อาการก็หนัก ขึ้นเรื่อย ๆ ทานข้าวทานน้ำไม่ได้อาเจียนออกหมด น้ำหนักลดจาก ๕๐ กก. เหลือ ๓๙ กก. รักษาแบบ ไม่เจาะจนทุนค้าขายไม่เหลือ กระทั่งสามีต้องออก จากราชการนำเงินบำนาญมาเป็นค่ารักษา สามีจึง บอกให้ไปเจาะ สภาพดิฉันตอนนี้เหมือนอสุภะ (ศพ) ไม่มีผิด หวนนึกถึงธรรมะที่หลวงพ่อท่านบอกข้อที่ว่า “ให้ปลงตก” ดิฉันเข้าใจแล้วว่า ปลงตก เป็นอย่างนี้ เอง จึงตัดสินใจจะไปเจาะ ระยะหลังที่ป่วยหนัก ดิฉันเปลี่ยนมาภาวนา “สัมมา อะระหัง” ตั้งแต่เมื่อไร ก็ไม่ทราบ แต่ตอนนี้คำภาวนาเปลี่ยนไปอีกจาก “สัมมา อะระหัง” เป็น “หลวงพ่อลูกขอโทษๆๆ” เพราะรับปากหลวงพ่อว่าจะไม่เจาะ ครั้นพอไปถึง โรงพยาบาล คุณหมอเกิดติดธุระด่วน ดิฉันก็เลย ดีใจที่ไม่ต้องเจาะ เดินทางกลับบ้าน อาการก็ทรุด หนักเรื่อย ๆ จนคิดว่าคงไม่รอดแน่ ก่อนตายเราควร ไปวัดอีกสักครั้ง ไปถึงก็ไม่นั่งสมาธิเอาแต่คร่ำครวญ ว่า “หลวงพ่อเจ้าขาลูกตายแน่แล้ว! ห่วงก็แต่ลูก ๆ " เท่านั้น” สักครู่ก็ได้ยินเสียงหลวงพ่อเทศน์ว่า “ใคร ที่เจ็บไข้ได้ป่วยหนักให้นึกขยายองค์พระให้ขับไล่ โรคร้ายไข้เจ็บออกไปทุกอณูเนื้อ ทุกขุมขน จิตใจอย่า ไปเกาะเกี่ยวอยู่กับลูกหลาน เดี๋ยวจะไปไม่ไกลเป็น จิ้งจกตุ๊กแกที่บ้าน” ดิฉันเลยคิดว่า “เกิดเป็นคนยัง ลำบากแสนเข็ญขนาดนี้ ถ้าต้องเป็นจิ้งจกตุ๊กแก ไม่เอาดีกว่า” ก็เลยปล่อยวาง เริ่มนึกว่ามีองค์พระอยู่ ในท้อง มีดวงแก้วอยู่กลางองค์พระ ทั้งที่ตอนแรก เอาแต่เถียงว่า “ในท้องมีแต่ตับไตไส้พุง” แต่ตอนนี้ มีไม่มีก็ขอนึกว่ามีไว้ก่อนกลัวจะเป็นจิ้งจกตุ๊กแก จึงภาวนา “สัมมา อะระหัง” รัวถี่ยิบเพื่อเตรียมตัว ตาย พอสบายใจแล้วค่อยกลับบ้าน กลับไปก็นอน ทำภาวนาแล้วอธิษฐานว่า “ธรรมะ ๕ ข้อที่เคยรับปาก หลวงพ่อไว้ ลูกไม่ได้ทำตามเลย ต่อนี้ไปลูกจะ ปฏิบัติตาม ขอให้ลูกหาย ถ้าหายแล้วจะปฏิบัติธรรม อธิษฐานเสร็จก็นอน ต่อมาฝันเห็นหลวงพ่อสลับกับ ฝันว่าจะมีคนมาเอาตัวไปสลับไปมาอยู่นานเป็นเดือน วันหนึ่งดิฉันก็มีแรงเดินลงมานั่งที่หน้าบ้าน เพื่อน คนหนึ่งเห็นหน้าก็ทักว่า “โอ! หายแล้วเหรอ หน้าตา สดชื่น เมื่ออาทิตย์ก่อนเห็นตัวเขียวซีดท่าทางเหมือน จะไม่รอด มาตอนนี้เหมือนสายบัวชุบน้ำดูสดชื่น” สักพักก็มีคนรู้จักนำต้นหญ้าแก้โรคมะเร็งมาให้ต้มกิน ดิฉันปฏิเสธไม่เอาเพราะทานอะไรไม่ได้ อาเจียนออก หมด เขาก็คะยั้นคะยอให้ลองดู สูตรในการทำคือให้ นำมาล้าง นั่น ตากแดด คั่ว แล้วค่อยนำมาต้ม แต่ พ่อบ้านเห็นอาการดิฉันแล้วคิดว่าไม่ทันการจึงต้ม ให้ดื่มทันที แปลกมากที่ดื่มได้จึงต้มดื่มเป็นการใหญ่
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More