ข้อความต้นฉบับในหน้า
สัมมาทิฐิในระดับเพียง “เข้าใจ”
แต่ยัง “ไม่เข้าไปอยู่ในใจอย่าง
มั่นคง” นั้น ย่อมแปรเปลี่ยนไปเป็น
“มิจฉาทิฐิ” ได้โดยง่าย
ทำทานเป็นกิจวัตร การรักษาศีลอย่างบริสุทธิ์บริบูรณ์
และการขวนขวายพากเพียรทำสมาธิภาวนาอยู่เป็น
นิจ โดยสรุปก็คือเป็นผู้ที่ตั้งใจสั่งสมบุญกุศลอยู่เสมอ
โดยไม่ทำบาปอกุศลใด ๆ เลย จึงจะชื่อว่า “สัมมาทิฐิ
บุคคล”
ทั้งนี้เพราะสัมมาทิฐิในระดับเพียง “เข้าใจ”
แต่ยัง “ไม่เข้าไปอยู่ในใจอย่างมั่นคง” นั้น ย่อมแปร
เปลี่ยนไปเป็น “มิจฉาทิฐิ” ได้โดยง่าย
มิจฉาทิฐิ หมายถึงอะไร
มิจฉาทิฐิ คือความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องโลก
และชีวิตตามความเป็นจริง เป็นความเข้าใจผิด ซึ่ง
ตรงกันข้ามกับความเข้าใจถูกคือสัมมาทิฐิ ๑๐
ประการ มิจฉาทิฐิก็มีอยู่ ๑๐ ประการเหมือนกัน
ซึ่งตรงกันข้ามกับสัมมาทิฐิ
บุคคลที่มีความเห็นผิดแม้ไม่ครบ ๑๐ ประการ
ย่อมชื่อว่าเป็น “มิจฉาทิฐิบุคคล” เพราะเขาพร้อมที่
จะทำกรรมชั่วหรือบาปอยู่เสมอ โดยไม่มีความคิด
ที่จะสั่งสมบุญกุศลเลย
ทําไมจึงต้องมีการปฏิรูปมนุษย์
สาเหตุที่ต้องมีการปฏิรูปมนุษย์ หรือสาเหตุที่
ต้องมีการเปลี่ยนมิจฉาทิฐิในใจของผู้คนให้เป็น
สัมมาทิฐินั้น มีเหตุผลสำคัญอย่างน้อย ๔ ประการ
คือ
๑. ผู้คนโดยทั่วไปในสังคมปัจจุบันมีภูมิคุ้มกัน
จิตใจบกพร่อง หรือขาดสัมมาทิฐิ
๒.
1. สัมมาทิฐิจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีการปลูกฝัง
อบรมอย่างจริงจัง
๓.
P.
1. มิจฉาทิฐิทำให้ผู้คนตกอยู่ในความมืดบอด
สัมมาทิฐิทำให้ผู้คนอยู่ในความสว่าง
ธรรมะอะไรที่เป็นพื้นฐาน
ก่อให้เกิดคุณสมบัติของคนดี
ธรรมะที่เป็นพื้นฐานรากเหง้าซึ่งก่อให้เกิด
คุณสมบัติคนดีที่โลกต้องการ คือสัมมาทิฐิ ทั้งนี้
เพราะสัมมาทิฐิ คือความเห็นถูกต้องเกี่ยวกับโลก
และชีวิตตามความเป็นจริง เมื่อบุคคลมีความเห็นถูก
ย่อมจะคิดถูก พูดถูก ทำถูก เลือกประกอบอาชีพถูก
และทำทุกสิ่งทุกอย่างถูกต้องเป็นขบวนการตามมา
เนื่องจากสัมมาทิฐิกำกับอยู่หัวขบวนโดยตลอด ดังนั้น
สัมมาทิฐิจึงเป็นแหล่งกำเนิดคุณสมบัติของคนดี
มากมายหลายประการ