การเลิกเหล้าและการดูแลครอบครัว วารสารอยู่ในบุญ ประจำเดือน กรกฎาคม พ.ศ.2552 หน้า 45
หน้าที่ 45 / 96

สรุปเนื้อหา

บทความนี้พูดถึงประสบการณ์ของผู้ที่เลิกเหล้าและผลกระทบที่มีต่อชีวิตและครอบครัว การที่คุณพ่อสามารถเลิกได้หลังจากใช้เวลา12 ปี มีการเน้นความสำคัญของการป้องกัน ไม่ให้คนในครอบครัวติดสุรา การออกมาตรการที่เข้มแข็งในการรักษาศีลและทำบุญ การตัดไฟต้นลม และแนวทางในการช่วยเหลือผู้ที่ติดสุรา รวมถึงการสร้างจิตสำนึกแก่ลูกหลาน

หัวข้อประเด็น

-การเลิกเหล้า
-ผลกระทบของสุรา
-การรักษาศีล
-การดูแลครอบครัว
-การตัดไฟต้นลม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

เหล้ามา ก็ผมเอง เลิกได้ไหม อยากจะเห็นทวดอายุยืนไหม อยากเห็นทวดน่ารักไหม อยากเห็น เพราะฉะนั้นเราต้องไม่ไปซื้อนะครับ เหลนก็ดีไม่ไปซื้ออีก ทีนี้ก็เลยเหลือคนใช้ที่บ้าน เมื่อ 1 ลูก หลาน เหลน ไม่ไปซื้อให้ ทำอย่างไร ใช้คนใช้ไป เราก็ ห้ามคนใช้ไม่ให้ไป คนใช้ก็เชื่อ โยมพ่อเลยหาเรื่องไล่คนใช้ออกจากบ้าน เราก็รู้ว่าคนใช้ไม่มีความผิด แต่ว่ากลัวโยมพ่ออุ่นใจมากไป หรือทำอะไรไม่เหมาะไม่ควรมากไป ตัดใจให้คนใช้ออก แล้วให้เงิน ชดเชยเขาไปพอสมควรทีเดียว คนใช้ใหม่เข้ามาก็โดนหาเรื่องให้ออกอยู่หลายคน ก็สู้ทนกันไป ใช้เวลากันเป็นปี เหล้า..มันทำให้สติวายวอดหมด แล้วที่แน่ ๆ ทรัพย์ของเรา ก็วายวอดตามไปด้วย ความเป็นคนของเรา บุญบารมีของเรา ก็วายวอดไปด้วยกับทุกหยดที่มันโหลดเข้าไปในลำคอ ในที่สุดโยมพ่อเมื่ออายุ ๗๕ ถึงเลิกได้ ด้วยมาตรการต่าง ๆ ที่ว่ามาอย่างนี้ จากนั้นท่าน ก็เริ่มตักบาตร รักษาศีล นั่งสมาธิ ก็อยู่มาได้ถึงอายุ ๔๕ ปี เมื่อตอนท่านจะละโลก ท่านละเมอไป ท่านตื่นตอนดึกประมาณตี ๓ แต่คิดว่าสว่างแล้ว ลุกขึ้นมาเรียกหลาน ๆ เหลน ๆ ว่า สายป่านนี้ แล้ว ความจริงคือเปิดไฟทิ้งเอาไว้ สายจนสว่างขนาดนี้แล้วยังไม่เตรียมข้าวมาให้ทวดตักบาตรอีก แล้วท่านก็เลยเดินไปสะดุดประตูล้ม คนแก่อายุ ๘๕ ล้ม ก็เลยไม่ฟื้น ต่อมาอีกสักอาทิตย์สอง อาทิตย์ท่านก็เสียชีวิตไป แต่ว่าก็ยังดีที่มีเวลาได้รักษาศีล ได้นั่งสมาธิ ได้ตักบาตรอยู่ ๑๐ ปี สำหรับท่านที่เขียนจดหมายมาถามหลวงพ่อ ก็ได้แต่บอกว่า คุณพลาดไปแล้ว มันเป็น ความผิดของคุณด้วยที่ไม่ห้ามเขาตั้งแต่ต้น ก็คงจะสมรู้ร่วมคิดเคยไปซื้อเหล้ามาให้ด้วย เคย ทำกับแกล้มอร่อย ๆ ให้ด้วย เขาก็เลยติดหนัก เพราะว่าใจอ่อน เลยต้องมานั่งอ่อนใจอย่างนี้ ต่อแต่นี้ไปก็หัดแข็งใจบ้าง อย่าไปตามใจเขา ลองใช้วิธีที่หลวงพ่อใช้กับโยมพ่อตัวเองดูบ้างก็ได้ แต่ก็ระวังก็แล้วกัน ถ้าพ่อบ้านยังแข้งหนักอยู่ละก็ ค่อยพูดค่อยจากันให้ดี ถ้าอายุมากแล้ว แข้งเบาแล้ว ลูก ๆ ก็โตแล้ว พอช่วยผ่อนหนักเป็นเบาได้ ก็ต้องใช้มาตรการที่เข้มแข็งขึ้นพอสมควร แต่สำหรับใครที่พ่อบ้านก็ยังไม่ถึงกับติดสุราแต่ว่าชักจิบ ๆ บ้างแล้ว ให้รีบตัดไฟต้นลม เดี๋ยวมันจะลาม แล้วเพื่อนขี้เมาของพ่อบ้าน หาทางตัดไฟต้นลมอีกเหมือนกัน อย่าให้มาบ้าน เดี๋ยวมาสุมหัวกินเหล้าที่บ้าน แล้วลูกหลานเราก็จะติดมารยาทขี้เมาตามไปด้วย อย่ามาพูดว่าไม่ ได้กินเหล้า กินแค่ไวน์ กินแค่เบียร์ ไม่ว่าไวน์ เบียร์ มันก็แอลกอฮอล์ มันทำให้สติวายวอดหมด ๆ แล้วที่แน่ ๆ ทรัพย์ของเราก็วายวอดตามไปด้วย ความเป็นคนของเรา บุญบารมีของเรา ก็วายวอด ไปด้วยกับทุกหยดที่มันไหลรดเข้าไปในลำคอ
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More