ข้อความต้นฉบับในหน้า
พระสุธรรมภูมิวิเทศกำลังนำเสนอความทางวิชาการในหัวข้อ “DIRI กับโครงการอนุรักษ์ คัมภีร์เทพโบราณด้วยระบบดิจิทัล (Digitization)”
แบบแผนทั้งด้านการปกครอง ศิลปะ การช่างและวิทยาการต่าง ๆ จากชาวอินเดีย ในปลายพุทธศตวรรษที่ 11 พระเจ้าอานันทะยะยะรามัน กษัตริย์ฟูน ได้ค้นพบเครื่องมือพระพุทธศาสนา แม้ว่าภูมิอากาศนั้นเป็นศาสนาพราหมณ์เป็นหลักแต่พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองคุ้นเคยไปพระภิกษุชาวปู่นี้ชื่อสังฆปะ“เป็นผู้เชี่ยวชาญในพระอธีธรรม ทรงความรู้แตกฉานในพระพุทธศาสนา ได้รับอาราณาจากจักรพรรดิให้เป็นผู้อสอนธรรมในราชสำนักและแปลคัมภีร์วมุติมตร ซึ่งแต่งโดยพระอุปติสสรจะเป็นภาษาจีน หลักฐานทางโบราณคดีด้านศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดก็คือ ศิลาจารึกที่วัดไตรเวี ยรใกล้เมืองอยุธยา ซึ่งระบุ พ.ศ. ๑๒๐๒ มีข้อความกล่าวถึงธรรมะสองพี่น้องที่วมวณในพุทธศาสนา และจากบันทึกของพระสงฆ์จีนอึ้ง๓ ผู้จาริกไปอินเดียทางเรื่อ่นน่าจะได้ในพุทธศตวรรษที่ 13
กล่าวถึงดินแดนทมิฬภูมิในยุคนั้นว่า พระพุทธ-ศาสนาเจริญรุ่งเรืองมาก ในเมืองมวัดทั่วไปทุกแห่ง ศาสนาพราหมณ์และพระพุทธศาสนาอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ชาวเมืองและเจ้าหน้าที่บาวในพระพุทธ-ศาสนา ทั้งกล่าวด้วยว่าดินแดนต่าง ๆ ในทะเลใต้บนนี้มีคนปฏิบัติ พระพุทธศาสนานิกายต่าง ๆ รวมทั้งนิเทศแนวสวาสติกาเป็นนิยานน่าที่เข้าใจบ้าง ลันกฤตจากพระธรรมวินัยซึ่งเป็นนิรยานที่ได้จากภาษาสันกฤตจากจารึกพระธรรมวินัย
พระพุทธรูปก่อนเมืองพระนคร พุทธธรรมาราชที่ ๑๐-๑๒ ที่มา https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/236x/72/56/0a/72560aafeff5d6e8bae0198dd01cbd7d.jpg