ข้อความต้นฉบับในหน้า
จริงของท่าน คำตอบง่าย ๆ แต่ไม่เลย นั้น ๆ จะถูกบันทึกเก็บไว้ในใจทั้งหมด ถ้าไม่บอกบุญแล้วจะให้บอกปะใช้ไหม แล้วท่านก็ขยายความว่า "นิเทถึงตัวเองกันสิว่า กล่าวมาขวัญได้ คุณยายอธิ่ตัวเองก็ว่าได้ ถ้าคุณก็รออยู่ที่วัดปกน้ำน่ะท่านหลายปี กว่าจะตามสมาชิกุรณแรกมารวมกันได้ ก็ใช้เวลาตั้งหลายปีว่ามาถึงวัด กว่าจะได้ร่วมกันสร้างบุญ ตอนที่ยังมาไม่ถึงก็ไม่รู้ว่าเราต่ออะไรกินมากน้อยเพราะตอนนั้นไม่มีใครมาช่วยแจ็ค ๆ บุญจึงเป็นอย่างไร บาปเป็นอย่างไร ก็จะรู้บูญรู้บาป ตั้งแต่จำความได้ไม่รู้ยังมดอยู่นานคงเป็นอย่างไร บาปเป็นอย่างไร กว่าจะรู้นู้นรู้บาปถามให้เห็นก่อน ยิ่งทำบุญไว้มากก็จะเชงหน้าบาปมาบนฉายให้เห็น ก่อน ยิ่งทำบุญไว้มากก็จะเชงหน้าบาปมาบนฉายให้เห็นก่อน ยิ่งทำบุญไว้มากก็จะเชงหน้าบาปมาบนฉายให้เห็นก่อน ยิ่งทำบุญไว้มากก็จะเชงหน้าบาปมาบนฉายให้เห็นก่อน ยิ่งทำบุญไว้มากก็จะเชงหน้าบาปมาบนฉายให้เห็นก่อน ยิ่งทำบุญไว้มากก็จะเชงหน้าบาปมาบนฉายให้เห็นก่อน ยิ่งทำบุญไว้มากก็จะเชงหน้าบาปมาบนฉายให้เห็นก่อน ยิ่งทำบุญไว้มากก็จะเชงหน้าบาปมาบนฉายให้เห็นก่อน ยิ่งทำบุญไว้มากก็จะเชงหน้าบาปมาบนฉายให้เห็นก่อน ยิ่งทำบุญไว้มากก็จะเชงหน้าบาปมาบนฉายให้เห็นก่อน ยิ่งทำบุญไว้มากก็จะเชงหน้าบาปมาบนฉายให้เห็นก่อน ยิ่งทำบุญไว้มากก็จะเชงหน้าบาปมาบนฉายให้เห็นก่อน ยิ่งทำบุญไว้มากก็จะเชงหน้าบาปมาบนฉายให้เห็นก่อน
สิ่งที่เราประมาณไม่ได้ก็คือ เราไม่รู้ว่าเราตายเมื่อไหร่ ตายที่ไหน ตายอย่างไร เพราะความตายไม่มีมิติมาย เราจริงต้องขยันสร้างบุญ ชิงช่วงสร้างบุญให้มาก ๆ คนที่ชีวิดูถูกความตายช่วงชิงไป เราจึงต้องทำบุญบ่อย ๆ และชักชวนเพื่อนฝูงมาทำบุญด้วย ถ้าหากเรารักเพื่อนรักพ้องก็ไปตามพวกเขามาวัด มานั่งสมาธิ มาพรรษา เขาจะได้ทำบุญเป็น
เมื่อเราทราบความจริงอย่างนี้ ก็ย่อมพิศาจัณกันต่อว่า ทำอย่างไรก็ให้ทำการความดี ภาพการทำบุญ ผังลึกอยู่ในใจเราจบจบรวบสุดท้ายของชีวิต? เพราะก่อนที่พวกเราจะมาถึงวัด เรามักจะทำกรรมดีแบบพอผ่าน ๆ ส่วนกรรมไม่ดีบางทีที่ไม่ได้ทำผ่าน ๆ แต่คิดวางแผนตั้งใจ"