ข้อความต้นฉบับในหน้า
นายพรานูกกฎมิตร ได้นเสียงนั่นแล้วคิดว่า ผู้นั้นเป็นพ่อของเรา, ตายจริง เราทำกรรมหนัก' แม้พวกเขาจะคิดว่า ผู้นั้นเป็นตาของเรา, ตายจริง เราทำกรรมหนัก' นายพรานกฎกฎมิตร เข้าไปตั้งเมตตาจิตไว้ว่า 'คนนี้เป็นพ่อของเรา.' แม้พวกเขาของเขาก็เข้าไปตั้งเมตตาจิตว่า 'คนนี้เป็นตาของเรา.' ขณะนั้น ธิดาเศษฐีมีมารดาของพวกเขาพูดว่า "พวกเจ้าทิ้งญาติเสียโดยเร็วแล้ว ให้อัตของฉันอณติโย." พระศรีดา ทรงทราบจิตของเขาเหล่านั้นแล้ว จึงให้ดครสูงได้. ขนเหล่านั้นทั้งหมด ถวายบังคมพระศตรแล้ว ให้พระองค์อด้อถือโทษ ลำดับนั้นพระศตรตรัสสอนภูมิพากษาในเวลาจวบเทวาม นายพรานกฎกฎมิตรพร้อมทั้งบุตรและสะใภ้มณฑเป็นที่ ๑๕ ตั้งอยู่ในโสตปัตติผลแล้ว. พระศตรเสด็จเที่ยวไปบิณฑบาต ได้เสด็จไปสู่ภารายหลังภัต. ลำดับนั้น พระอานนท์กระทูลากพระองค์ว่า "วันนี้พระองค์เสด็จไปไหน ? พระเจ้าข้า." พระศตรา. "ไปสำนักของกฎกฎมิตร อนุกธ์." พระอานนท์. "อันแต่พระองค์ผู้เจริญ นายพรานกฎกฎมิตรพระองค์ ทำให้เป็นผู้ไม่ทำกรรมคือปาณาติบาตแล้วหรือ ? พระเจ้าข้า." พระศตรา. "เออ อานุ่งท์" พากิณษสนทนากันว่า "ได้ยินว่า ธิเรญออนนายพรานกฎกฎมิตรบรรลุโสดาบันติผลในกาลที่ยังเป็นเด็กหญิงนั่นแล, นางอันสามสิ่งตลอดกาล เท่านี้ว่า 'หล่อนจงนำธนูมา นำลูกศรมา นำทองมา นำขำมา,' ได้ไหม้สิ่งเหล่านั้นแล้ว, นายพรานนั่นถือเครื่องประหารที่นางให้ไปทำปานติบาต; แม้พระโสดาบันทั้งหลายยังทำปานติบาตอยู่หรือหนอ ?"