ข้อความต้นฉบับในหน้า
4. บุตรในโลกแบ่งเป็น ๓ ประเภท ตามความประพฤติ หรือสีลี
ก) อติชาติ หรืออภิชาติบุตร บุตรที่ดีว่าพ่อแม่ เช่น ออกเสน (บรรลุพระอรหัต), ลูกสาวเศรษฐีจรรย์รักษ์ (บรรลุโสดาบันตั้งแต็เด็ก)
2) อนุชาติมุตร บุตรที่สมอพ่อแม่ เช่น นายกาละ กับ จุฬุสุขทา
3) อาวชาติมุตร บุตรที่เแก่กว่าพ่อแม่ เช่น บุตรเศรฐฐีมีทรัพย์มาก
5. บทฝีกูลูกรัก ช่วงปฐมวัย
อายุไม่เกิน ๒๕ ปี เรียกว่าปฐมวัย ปกติเป็นวัยที่ยังไม่สมควรจะออกครองเรือน ควรเป็นวัยแห่งการศึกษาเล่าเรียน เป็นระยะเวลาของการเตรียมตัวที่จะออกไปครองเรือนในอนาคต มักจะอยู่ในความปกครองของบิดามารดา
ชีวิตปฐมวัยควรปฏิบัติตามมงคลสุขตร ตั้ งแต่ข้อ ๑ ถึงข้อ ๑๐ คือ
ก) ไม่ให้คนพาล (เพื่อจะได้ไม่ตกในทางที่ชั่ว)
ข) ให้บัณฑิต (เพื่อให้พบแต่ความเจริญรุ่งเรืองของชีวิต)
ค) ให้บุคคลที่ควรบูชา (เพื่อให้เกิดแบบอย่างที่ดี)
ง) ให้อยู่ในถิ่นที่เหมาะสม (เพื่อสะดวกในการศึกษาเล่าเรียน)
จ) ให้สะสมบุญเรื่อยไป (เพื่อเป็นทุนไปสูความสุขสำเร็จ)
ฏ) ให้ตั้งใจไว้ชอบ (เพื่อให้มั่นสัมงชีวิตที่ถูกต้อง)
ฑ) ให้เป็นผู้ฟังมาก (เพื่อจะได้มีความรอบรู้)
ฒ) ให้ศึกษา ศิลปวิทยา (เพื่อให้มีพื้นฐานการประกอบอาชีพงานที่ดี)
ณ) ให้มีระเบียบวินัยดี (เพื่อให้มีหลักการที่ดีในการดำรงชีวิต)
ด) ให้มีวามสุขภาพดี (เพื่อให้เกิดความมีสมดุลในตัวเอง)
หรือจะใช้หลักธรรม ทีมชาญสูตร ก็ได้
เพื่อความสุขในปัจจุบันแก่ลูกสูตร ๔ ประการ คือ
๑) อุฏฐานสัมปทา รู้จักหาทรัพย์ด้วยปัญญาและความขยันมั่นเพียรของตนเอง
๒) อารักขาสัมปทา รู้จักเก็บรักษาและทำให้ทรัพย์เพิ่มพูน
๓) กัลยาณมิตตตา รู้จักคบคน
๔) สมชีวิตา รู้จักการใช้จ่ายทรัพย์ไม่ฟุ่มเฟือย หรือขัดสนเกินไป