การเดินทางของพระอาจารย์ฐานโโยในการศึกษาพุทธศาสตร์ วารสารอยู่ในบุญประจำเดือนธันวาคม พ.ศ.2559 หน้า 48
หน้าที่ 48 / 120

สรุปเนื้อหา

พระอาจารย์ฐานโโยได้ใช้เวลา 10 ปีในการเป็นสมณะ และหลังจากบวชได้ 3 ปี ท่านเลือกเรียนต่อที่ประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากต้องการเผยแผ่พุทธศาสนาอย่างมีส่วนร่วมผ่านการศึกษา โดยเรียนที่มหาวิทยาลัยริโอคุซึ่งมีชื่อเสียงด้านพุทธศาสตร์ เคยได้รับรางวัลวิทยานิพนธ์ยอดเยี่ยมหลายครั้งและเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกราวา หลังจากจบการศึกษา ท่านยังมีอาชีพเป็นอาจารย์พิเศษในมหาวิทยาลัยต่างๆ

หัวข้อประเด็น

-การศึกษาของพระอาจารย์ฐานโโย
-การเผยแผ่พุทธศาสนา
-การเรียนที่ญี่ปุ่น
-รางวัลที่ได้รับ
-อาชีพหลังจบการศึกษา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

กว่าจะแผ่นดินนี้มีได้ พระอาจารย์ฐานโโย ต้องทำหน้าที่กลายานมิตรและพุฒจันให้ทุกคนในครอบครัวเห็นความตั้งใจจริงที่จะครองเพศสมณะ โดยใช้เวลาถึงสิบกว่าปีเดียว ด่านที่สอง : สเตจ II หลังจากบวชได้ประมาณ 3 ปี ท่านก็เดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศญี่ปุ่น... อะไรทำให้ผู้ที่ตัดใจทิ้งอนาคตทางโลกไปแล้ว หวนกลับมาศึกษาต่ออีก ? "ตอนแรกไม่ใด้คิดว่าจะเรียนต่อ เพราะทั้งทางโลกมาก็เพื่อจะใช้ชีวิตเป็นสมณะ แต่ตอนหลังมาว่า หน้าที่สมบูรณ์ของพระภิกษุ มี 2 ประการ คือ ทำเพื่อประโยชน์ตนเองและประโยชน์ท่าน จึงตัดสินใจเรียนต่อลงด้านพุทธศาสตร์ เพราะคิดว่า 'การเผยแผ่ที่ใด้ผลดีในระยะยาว คือการเผยแผ่ผ่านทางการศึกษา' เพราะสามารถเผยแผ่ได้ง่ายกว่าการชักชวนให้คนมานับถือศาสนาหรือเปลี่ยนความเชื่อการเรียนครั้งนี้มีจุดประสงค์ที่จากตอนเป็นมวลราวสอยอย่างสิ้นเชิง" โลกกว้างใหญ่ไพศาล ทำไมถึงเลือกเรียนที่ประเทศญี่ปุ่น ? "หลวงพี่เขาบอกว่า นักวิชาการชาวญี่ปุ่นเก็บรวบรวมองค์ความรู้ด้าน 'พุทธศาสตร์' ซึ่งเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศเอาไว้มากมาย จึงคิดว่า ถ้าหากเรารู้ภาษาญี่ปุ่นก็เหมือนมีกุญแจที่จะเข้าไปเปิดของความรู้เหล่านี้ได้ จึงเลือกเรียนที่ประเทศนี้ พร้อม ๆ กับเริ่มสร้างวัดไปด้วย" ตอนนั้น พระอาจารย์ฐานโโยเรียนภาษาญี่ปุ่นอยู่ปี 2 แล้วจึงสอบเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยริโอคุ (Ryukoku University) "จริงใดฯมีเสียงทางด้านพุทธศาสตร์ ชั้นนำของประเทศ เปิดสอนมาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๑๒๘ สอนระดับอนุปริญญาจนปริญญาเอก ปัจจุบันนี้นักศึกษาชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติเรียนอยู่กว่า 20,000 คน หลวงพี่จบปริญญาตรี-โท-เอก จากภาควิชาพุทธศาสตร์ คณะอัฐศาสตร์" เคยได้รับรางวัลอะไรบ้าง ? "ตอนจบปริญญาตรี (พ.ศ. ๒๕๓๕) หลวงพี่ได้รับรางวัลวิทยานิพนธ์ยอดเยี่ยมอันดับ 1 ในหัวข้อ 'ัมมาจักปัจฉัฏสูตร' (ภาษาญี่ปุ่น) ปริญญาโท (พ.ศ. ๒๕๕๐) ได้รับรางวัลวิทยานิพนธ์ยอดเยี่ยมอันดับ 1 ในหัวข้อ 'สมวาสิสนานในคัมภีร์พระสุทัตตปุจฉาบาล' (ภาษาญี่ปุ่น)" สำหรับปริญญาเอก ท่านเรียนแค่ 3 ปี (จบเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๙) ทำวิทยานิพนธ์หัวข้อ "สมวาสิสนาในคัมภีร์ธุดงค์ถึงอรรถถกาฎา ฝ่ายเหนือและฝ่ายใต้" มีสิทธิ์ได้ว้าว "ดอกเตอร์" นำหน้าชื่อเมื่ออายุ 36 ปี ก่อนจะว่าจักรยระดับนี้มาได้ ท่านบอก สั้น ๆ ซึ่งเรายากที่จะเส้นได้ทุกคำเลยว่า "ต้องทุ่มเทและเอาใจใส่ทั้งก่อนเรียนและหลังเรียน หล่นปรึกษาอาจารย์รุ่นนั้น ๆ และเพื่อน ๆ ให้เขา ช่วยอธิบายสิ่งที่เรายังเข้าใจไม่สมบูรณ์ และต้องบริหารเวลาที่หาด หลวงพี่ไม่ได้มีเวลาเรียนเต็มที่เท่าไรนัก เพราะมีการสร้างวัดด้วย (ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายโอซาก้า) แต่ก็ใช้เวลาที่มีทั้ง 2 ภารกิจ" เมื่อเรียนจบแล้ว ในฐานะที่ท่านเป็น "ผู้เชี่ยวชาญด้านกราวา" จึงมีมหาวิทยาลัย 3 แห่ง 5 วิทยาเขต เชิญท่านไปเป็นอาจารย์พิเศษ
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More