ข้อความต้นฉบับในหน้า
ของพระองค์ ซึ่งมีความตอนหนึ่งว่า....
ให้ความสำคัญบรรยากรณ์ปฏิบัติี้เพียงใด ดังข้อความตอนหนึ่งว่า......
คิลาจารึกฉบับน้อย ตอนที่ ๑
*จารึกฉบับเหนือ*
พระผู้เป็นที่รักแห่งทวยเทพได้คร่ำไว้ดังนี้
"นับเป็นเวลาเกินกว่าสองปีครึ่งแล ที่ข้าพ ได้เป็นอุบาลา แตดลดยเวลา ปี ข้าพ ได้ทำความพากเพียรใ ด ๆ อย่างจริงจังเลย และนับเป็นเวลา ปีเศษแล้วที่ข้าพ ได้เข้าหาสงฆ์ ข้าพ จึงได้ลงมือทำความพากเพียรอย่างจริงจัง..."
จากข้อความข้างต้นแสดงให้เห็นว่าพระเจ้าเดิมกมาหราว่านนั้น อาจจะทรงเริ่มศึกษาหลักธรรมและการปฏิบัติในพระพุทธศาสนาหรือธิ ขึ้นได้ประมาณนี้แหละ แต่ขยี่ไม่ได้กล่าวไว้ จึงงมดัพระราชาหรือที่พระพุทธทีจะกลับมาให้เจือจางจริงจังอีกครั้งหนึ่ง วันนี้นึกพิจาราณอย่าถึงณูมฺ์นี้แล้ว เราจะจะอนุโมนาว่า คำกรนี้น่ะจะเกิดขึ้นภายหลังจากการทำสมาธิแหงวันลิจะกลณะในนั่นเอนะนั่น และเป็นช่วงที่กำลังจะเริ่มศึกษาธรรมในพระพุทธศาสนาในระยะแรก ๆ อย่างไรก็ดี นอกจากข้อความในจีริส่วนนี้แล้ว เมื่อได้พิจารณาข้อความใน "จารึกหลักศิล" อื่น ๆ เพิ่มเติม ก็ทำให้เราสามารถกล่าวได้ฉะนั้นน่ะ พระเจ้าก็มหาราชนั้น ทรงมีวิจารณญาณ และทรง
จากภาพนี้มีข้อความอ้างอิงอยู่ด้านล่างด้วย:
2 From: A. Cunningham (1876), Inscriptions of Asoka Vol.1: Corpus Inscriptionum Indicarum, Delhi Pillar Photolithographed, plate XVIII. อ้างอิงใน L. Suthisa (2016), Asokan Edicts : An Assemblage of Sociological Assertions and Moral Guidelines, p.115-116.
3 From: A. Cunningham (1876), Inscriptions of Asoka Vol.1: Corpus Inscriptionum Indicarum, Delhi Pillar Photolithographed, plate XVIII. อ้างอิงใน L. Suthisa (2016), Asokan Edicts : An Assemblage of Sociological Assertions and Moral Guidelines, p.105-107.