ปัญญาในพระพุทธศาสนา คำสอนคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม 2 หน้า 87
หน้าที่ 87 / 171

สรุปเนื้อหา

บทความนี้อธิบายเกี่ยวกับปัญญาที่มีอยู่ในพระพุทธศาสนา โดยแบ่งเป็น 3 ระดับคือ สุ่มยะปัญญา ซึ่งได้แก่ความรู้ที่เกิดจากการรับรู้ ฟัง อ่าน และศึกษา จินตามยปัญญา ซึ่งเกี่ยวข้องกับการคิดพิจารณา และภาวนามยปัญญา ที่เป็นความรู้จากการฝึกปฏิบัติจนเห็นแจ้ง การเข้าใจในปัญญาที่แท้จริงเป็นการเห็นตามความเป็นจริง สร้างความบริสุทธิ์ในจิตใจ โดยวิชชาเป็นความรู้แจ้งที่เกิดจากการเห็นแจ้งสิ่งต่าง ๆ และสามารถเอาชนะความสงสัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หัวข้อประเด็น

- ระดับของปัญญา
- สุ่มยะปัญญา
- จินตามยปัญญา
- ภาวนามยปัญญา
- วิชชา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

สุ่มยะปัญญา คือ ความรู้ที่เกิดจากการได้ยิน ได้ฟัง ได้อ่าน ได้ศึกษาเล่าเรียนมา เป็นการรู้จำ คือ จำในสิ่งที่ผู้รู้ว่าจะมีความรู้สมบูรณ์หรือไม่สมบูรณ์ก็ตาม ได้บันทึกเรื่องราวสิ่งที่เห็นเอาไว้เป็นวิทยาทานให้ได้ศึกษากันสืบต่อมา จินตามยปัญญา คือ ความรู้ที่เกิดจากการนำมาคิดพิจารณาหาเหตุผลแบบนี้นักคิดทั่วไป ความคิดบางครั้งถูกบ้าง ผิดบ้าง นี้เป็นปัญญาใน ๒ ระดับ แต่ปัญญาในพระพุทธศาสนามี ๓ ระดับ ระดับที่ ๓ คือ ภาวนามยปัญญา เป็นปัญญาที่เกิดจากการฝึกน้อมมือปฏิบัติแล้ว ในระดับที่อยู่เหนือเหตุผลธรรมดา เราจะอภัยเหตุผลธรรมมาใช้ไม่ได้เลย เพราะภาวนามยปัญญาเป็นความรู้ที่เกิดจากการเห็นแจ้ง คือ จิตต้องเกิดความสง่าวิญญาณและความสงสัยนั้นนำไปสู่ญาณธรรมจึงเกิดขึ้น หรือญาณทัศนะเกิดขึ้น สว่างแล้วจึงเห็น เห็นแล้วจึงรู้ เพราะฉะนั้น “วิชชา” จึงหมายถึง ความรู้แจ้งที่เกิดจากการเห็นแจ้ง ความเห็นที่เกิดจากจิตที่บริสุทธิ์จากกลเสทั้งหลายแล้ว เกิดปัญญาบริสุทธิ์ รู้เห็นไปตามความเป็นจริง รู้ทั่วถึง รู้พร้อม แล้วก็ไปสู่เป้าหมาย เหมือนของที่อยู่ในที่ดีดังมองอยู่กลางแจ้งเราจะเห็นชัดเจน เช่น เชือกเปียกน้ำ ถ้าอยู่ในที่มิด ๆ บางทีเราอาจจะคิดว่าเป็นงู หรือเป็น
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More