ข้อความต้นฉบับในหน้า
พระนิพนธ์ของ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ ๑๗ 59
เสียงสะอื้นก็ระงมขึ้นในห้องที่หลวงพ่อมรณภาพ ทุกคน
หน้าซีดสลด แม้น้ำตาไม่ออกทางลูกตา จะปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้นั้นไม่
กลืนนํ้าตาแห่งความสลดใจ
เมื่อแน่ใจว่าดับสนิทดีแล้ว ระฆังทุกใบในวัดได้บันลือเสียง
ขึ้น กลองก็ดังขึ้นเป็นอันรับรู้กันว่า เจ้าคุณพระมงคลเทพมุนีได้
ละโลกนี้ไปสู่ปรโลกแล้ว ครู่ต่อมากุฏิตึกหลังใหญ่เนืองแน่นไปด้วย
ภิกษุสามเณร อุบาสก อุบาสิกา หน้าเศร้าน้ำตาคลอ บ้าง ทิ้งตัว
ลงกราบ บ้างยืนไหว้ บ้างสะอื้นเอามือปิดหน้า เวลานั้นไม่มีเสียง
พูด มีแต่เสียงสะอื้นและเงียบสงัด แสดงว่าหมดที่พึ่งแล้วจน
อวสานแห่งชีวิตของตน
การมรณภาพของหลวงพ่อเวลา ๑๕.๐๕ น.นั้น คล้ายกับ
ว่าพระคุณท่านยังมีความกรุณาอยู่ เพราะยังให้เวลาดำริและติด
ต่อเรื่องจัดการศพได้เป็นเวลาสะดวกจริงๆ จะติดต่อกับใครสั่งการ
อย่างไรอันเกี่ยวแก่ศพ สำเร็จทุกทาง คล้ายกับว่าหลวงพ่อเปิด
ทางสะดวกไว้ให้ เครื่องใช้สอยมีทุกอย่างกันความประสงค์
ถ้ามรณภาพในเวลากลางคืนหรือใกล้รุ่ง ก็จะพากันเดือด
ร้อนและหนักใจเพียงไร คืนนั้นเราพิมพ์การ์ด อาบน้ำศพเสร็จ
จัดสถานที่ ตั้งศพเรียบร้อย เรียกอย่างไรได้อย่างนั้น และทัน
ประกาศทางวิทยุและหนังสือพิมพ์