ข้อความต้นฉบับในหน้า
กิริยากริยา แบบเรียนบาลีไวยากรณ์สมบูรณ์แบบ 3
กรมอัญมณี แบ่งออกอีกเป็น 2 ชนิด คือ
1. ปัจจุบัน แปลว่า อยู่
2. อดีตกาล แบ่งออกอีกเป็น 2 ชนิด คือ
ก. อดีตกาลล่วงไปแล้ว ยังคงเนื่องอยู่ แปลว่า ....แล้ว
ข. อดีตกาลล่วงไปแล้วและสำเร็จแล้ว แปลว่ากัน....แล้ว
ในคัมภีร์พระปฐมมุติยลิจะแสดงจากของกริยากิจกิเป็นอนาคตได้อีก คือ ผู้ศึกษาจะให้ทราบกันไปอีกใน การศึกษามีรุกเป็นสิทธิ
การกำหนดกาลกริยาทกต์
จะกำหนดตามได้ว่า กริยากิจกิทั้น ๆ เป็นกาลอะไร ต้องกำหนดปัจจัยกริยากิจก์ จึงจะทราบได้
1. ปัจจุบันแท้ แปลว่า...อยู่ ปัจจุบันสำหรับบอก คือ อนุต, มาน ปัจจัย
2. ปัจจุบันใกล้ล่วงหน้า แปลว่า เมื่อ... ปัจจัยสำหรับบอก คือ อนุต, มาน ปัจจัย
3. อดีตกาลล่วงแล้วซึ่งต่อเนื่องอยู่ แปลว่า...แล้ว ปัจจัยสำหรับบอกคือ ครุณ, ตดว, ต, ต, ตุ่น, ตุน, ดูวาน
4. อดีตกาลล่วงแล้วและสำเร็จแล้ว แปลว่า....แล้ว ปัจจัยสำหรับบอกคือ ดู, ดูว, ดูวาน ยังมีปัจจัยอีก 1 ตัว คือ อนีย, ตูพุ พูด ที่ไม่บอกอะไร บอกเพียงความเป็นไปของกริยาอาการ ซึ่งจะได้กล่าวต่อไปในบทต่อไปด้วยการเปล่ง อนีย ตูพุ ปัจจัย
องค์ประกอบที่ 4. ธาตุ
ธาตุ คือ รากศัพท์เป็นตัวดีสำหรับประกอบกับปัจจัยให้ทราบความหมายต่าง ๆ ของบท แบ่งเป็น 2 ชนิด 2 ประเภท และ 4 หมวด เหมือนในรายกรายยกดังนี้
ธาตุ 2 ชนิด คือ
ก) สกัมธาตุ ธาตุสำหรับสำหรับกรรมเข้ามารับวัจจะได้ความสมบูรณ์
ข) อัมมหธาตุ ธาตุที่ไม่ต้องมีกรรมเข้ามารับก็ได้ความสมบูรณ์
ธาตุ 2 ประเภท คือ
ก) เอโกสันธาตุ ธาตุมีสาระเดียวที่เป็นสาระ หรือ สะระ ๑ ตัวสมกันพยัญชนะ เช่น อิ, อุ, ทา, เบ, ทา, ฯล ฯ. ฯ. ฯ. ฯ
ข) อเนกสันธาตุ ธาตุมีสาระมากตั้งแต่สองตัวขึ้นไป เช่น กร, ลภ, ปจ, ฉำ, คุม, เทพ