ข้อความต้นฉบับในหน้า
เพราะฉะนั้นเป็นภาระหน้าที่ของแต่ละคนที่จะต้องรีบศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งรีบปฏิบัติธรรม เพื่อให้ใจหยุดใจนิ่งเข้าถึงพระธรรมกายในตัว แล้วจะได้ความจริงของโลกอย่างที่ว่านี้ จะได้ทางควบคุมตัวเองไม่ให้ละเมิดกฏแห่งธรรม เมื่อไม่ละเมิดกฏแห่งธรรมได้ดีแล้ว เวธรรมใหม่ก็ไม่สามารถสร้างอย่างมากมิมิแต่เวธรรมเก่าที่เกิดจากชาติที่แล้วตามมาบืนคืนกัน แต่เมื่อเราไม่ทำเวธรรมใหม่เราก็ใช้เวธรรมเก่าของเราไป ในเวลานี้ก็นับเป็นการสร้างความดีใหม่ ในที่สุดกรรมเก่าก็ยอมหมดไปกรรมใหม่ซึ่งเป็นกรรมดีท่วทั้น เราก็มีสิทธิที่จะออกจากโลก ออกจากวัฏสงสารนี้ได้ หรือออกจากคุกนี้ได้
ความจริงเหล่านี้ภายในพระไตรปิฎก แต่มีน้อยคนเหล่านี้รู้ความจริงเหล่านี้ แล้วทำอย่างไรจึงจะให้ชาวโลกได้รู้ความจริงเหล่านี้ โนรานีมีวิธีนี้แน่ทีเดียวก็การเดินดูดดิ่ง เมื่อพระอริยบุญดีบวชแล้ว ได้ศึกษาเรื่องความจริงของโลกและชีวิตโดยภาวนาทุกๆ วันตลอดพระยา ว่าโลกและจักรวาลคื่อดู ทุกชีวิตคือนิทโยตอบรอง โลกนี้มีความเหลืองรมเป็นกุศล คอยติดตามบังคับควบคุมให้เทษ ผิดพลาดเมื่อไรไปเท่าอยู่ แต่ถ้าไม่ผิดพลาด โทษก็ลดลง แถมก็ได้ทำความดีเพิ่มขึ้น ดิเดรมีโอกาสที่จะหลุดออกจากคุก พ้นจากโทษรอประหารตามพระสัมพุทธเจ้าและเหล่าพระอรหันต์ไปเพื่อให้ชึ่งความจริงประจำโลก ประจำชีวิตอย่างนี้ออกพระมาแล้ว พระอาจารย์ พระอุบลชำตามวัดต่างๆ ก็จะพาออกเดินทางเพื่อฝึกสมาธิในท่ำเดิน ซึ่งจะทำให้สามารถนับหน้าได้เร็ว เพราะฉะนั้นในอดีการเดินดูดดิงหลังออกพระจงเป็นบนบรรยของพระองค์ เป็นพระหนุ่มเอนร้อนจะได้ฝึกสมาธิท่าน่าเดิน ฝึกความทรงอดทน ฝึกความรู้ประมาณด้วยการเดินดูดดิง ส่วนประชาชนก็จะได้มีโอกาสนี้เช่นบุตรหลานของตัวเองที่มาบวชว่า ๑ พระธนานมา พระลูกพระหลานได้ศึกษาพระธรรมวิถีของพระตกาดเจ้าฉองจริงๆ และบัณนี้ก็จะออกเดินดูดดิงเพื่อเพิ่มพูนสติปัญญาและสมาธิของตัวเองให้เก่งกล้างใน ในเวลานี้ก็มีโอกาสที่จะบรรพระคุณพระหลานที่ออกเดินดงให้ได้รับความสว่างสบาย ซึ่งถือว่าเป็นบุญบูญ เพราะว่าพระเหล่านี้ได้ฝึกตนอย่างดีตลอดพระชนเมนูนี้เป็นทีมของการเดินดงตั้งแต่ดีดี แต่เป็นน้าที่เสียดายว่าในระยะประมาณ ๕๐-๖๐ ปีมานี้ การเดินดูดดิงค่อยๆ ทยอยทยอย ไป เนื่องจากาปฏิทำลายไปจนเกือบหมด เป็นต้นแต่เป้าคอนิท ก็มีทางเลือกอยู่ว่า อย่างแาในเมื่อปฎิธรรมชาติเพิ่มไปแล้ว เราไม่ต้องไปเดินดงดี ซึ่งเป็นอย่างนี้ การที่จะทำมิชินของเราก็จะกระโดดอย่างดีตื่นกันไป อย่างท้อง เมื่อนไปโดยธรมชานธรรมไปแล้วเหล่าแตปา คอนิท ก็ถามว่าแล้วจะเดินไหม ถ้าไม่เดิน แม้แต่คาเว่าแค่เท่านี้ก็นอนอมนุษย์ก็ไม่รู้จัก และการที่จะทำสมาธิของตัวเองให้กว้างหน้า ก็ต้องใชเวลายกอีกปีนี้ไม่ทราบ เพราะฉะนั้นพระเดช-พระคุณพระเทพญาณมุนีก็สันติใจว่าดวงจรธรรมชัยต้องเกิด เดินดงผ่าเมืองหรือเดินดงค์ในป่าบอนกรีตจำเป็นต้องทำ แล้วการทำอย่างนี้จะไม่เป็นธรรมนอกอธรอไปหรือเพราะไม่เคยมีใครเขาทำกัน ไม่มีบันทึก แต่ในที่สุดก็จะดันทแนบแบบบนได้ ต้นแบบในการเข้ามาฝึกสมาธิกลางเมือง กลางป่าบอนกรีต ก็ได้มาจากหลายๆนเมือง