ข้อความต้นฉบับในหน้า
การตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีแต่ผู้ออกจากเฉพาะบุคคลที่นับถือพระพุทธศาสนา แม้บุคคลที่เคยบวชในศาสนานอื่นมาก่อนแล้ว แต่ตั้งใจปฏิบัติธรรมมรรคมองด์ ตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหลังจบชีวิตเป็นเดิมพ้น ก็สามารถบรรลุธรรมที่พระองค์ตรัสรู้มาก่อน ได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น พระพุทธศาสนาจึงเป็นศาสนาที่มีคำสอนเป็นสากล เพื่อการบรรลุธรรม ผล นิพพานของมนุษยชาติเหมือนเทียวกัน การที่พระองค์ประกาศความสมบูรณ์แบบของพระธรรมคำสอนอย่างชัดเจนเช่นนี้ คือการสร้างความมั่นคงให้กับพระพุทธศาสนาได้อย่างยอดเยี่ยม เพราะเป็นการประกาศให้โลกได้รู้ถึงคุณค่าของพระธรรมคำสอนอย่างแท้จริง
๓. พระองค์ทรงประกาศให้พระธรรมวัเป็นศาสดาแทนพระองค์อย่างสมบูรณ์แบบ การแสดงธรรมโปรดพระสาวกคนสุดท้ายจบลงในเวลาที่จะเสด็จดับขันธปรินิพพานนั้น เสมือนหนึ่งพระองค์ได้ทรงวางรากฐานความมั่นคงของพระธรรมวัเป็นครั้งสุดท้าย นับได้ว่าพระองค์สร้างความมั่นคงแข็งแกร่งอย่างแท้จริงให้กับพระธรรมวั เพื่อที่จะนำหน้าที่ศาสดาแทนพระองค์อย่างสมบูรณ์ ดังพระโอวาทว่า "ธรรมวัวันนี้เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่เธอทั้งหลาย หลังจากเราล่วงลับไปแล้ว ก็จะเป็นศาสดาของเธอทั้งหลาย"2
ต่อจากนั้น พระองค์ปะทานโอกาสให้เหล่าพระภิกษุทั้งหลาย ได้กล่าวถึงความสงสัยในการปฏิบัติธรรมมรรคมองด์ เป็นโอกาสสุดท้ายถึง ๓ ครั้ง แต่ปัจจุบันท่านทั้งหลาย ต่างนั่งเงียบ ไม่มีผู้ใดสงสัยในพระธรรมวัเป็นของพระองค์เลย ทั้งนี้เนื่องว่า การทำหน้าที่ส่งสาวกโลกให้พ้นทุกข์ของพระบรมศาสดาตลอด ๕๔ พระชา ได้เสร็จสิ้นสมบูรณ์แบบแล้ว พระภิกษุสาวกของพระองค์ทั้ง ๑๐๐ รูป ที่ประชุมกันอยู่ในวันนี้ ล้วนแต่เป็นพระอริยบุคคล ระดับพระโลดาวชั่นนี้ไป ย่อมไม่มีผู้ใดตกต่ำลงไปเป็นอริยะดา และมิหโทษจะได้รับตรัสรู้ไปภายหน้าในอีกอย่างมากไม่เกิน ๗ ชาติ ก็จะสามารถหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดได้อย่างแน่นอน ดังพระพุทธวจนที่ว่า "ภิกษุสาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมียบเพียรอยู่เสมอ ย่อมยังโลกให้สว่างไสวเหมือนพระจันทร์เดือนเพ็ญที่ส่องสว่างอยู่กลางฟ้า โผล่พ้นจากหมู่เมฆมาบัง จะนั่น"3 เมื่อจะวรรคสุดท้ายก่อนที่จะเสด็จดับขันบิณพาน พระองค์ได้รับปัจฉิมโอวาทเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อเตือนสติพระสาวกทั้งปวงให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท และทรงตรอกย้ำ