ข้อความต้นฉบับในหน้า
บรรยากาศการปฏิสนธิสัมพันธ์กับคนคุ้นเคยนั้นไม่เกิดขึ้นน้อย เพราะต่างมีภารกิจมากมายที่ต้องรับผิดชอบ แต่เมื่อมีโอกาสหลวงพ่อจะเดินทางมาคุยกับหลวงพ่อทัตตะและทุกครั้งที่มาจะเห็นหลวงพ่อทัตตะยืนรอต้อนรับอยู่หน้าอาศรมบัณฑิตเสมอ
มองจากในรจะเห็นท่านยืนรอรับด้วยอาการสงบ นอนน้อม เท้าชิด กายตรง มือและแขนของท่านปล่อยสบาย ๆ ข้างลำตัว ใบหน้าของยิ้ม สายตาท่านจับมาที่ตลอดจนเฝ้าสังเกต
ท่ทีที่ประตูถูกเปิดออก ท่านพบมือแสดงความคารพหลวงพ่อบังมะ ท่านทั้งสองมองหน้ากัน หลวงพ่อพูดคำแรกกับหลวงพ่อทัตตะด้วยเสียงเบา ๆ ลำลี
"หมดแรง!"
จากนั้นท่านก็พูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนเป็นสดใสมากกว่เดิมว่า "หลวงพ่ออย่าเพิ่งเป็นอะไรนะครับ" หลวงพ่อทัตตะยิ้มแล้วหัวเราะในลำคอที!
"พออยู่นะ" ท่านจากนี้แล้วก็เพียงปีเดียว ทำไมมันต่างจากเดิมมากเลยครับ"
เสียงที! ที! ดังขึ้นกว่าเดิมแล้วตามด้วยเสียงหัวเราะของหลวงพ่อทัตตะ
การปฏิสนธิสัมพันธ์ด้วยความคุ้นเคยนี้ กาลเวลไม่ใช่เป็นอุปสรรค พบเจอกันเมื่อไรก็มอบเข้าใจกันสร้างบารมีกียงบากี้งไหลมาด้วยกัน ก็เชื่อมต่อสนิทในทันที เช่นเดียวกับความคุ้นเคยกับพระเกรุแน่ๆนับเวลินบีบี ณ, แรงปี้ผ้าญ
แต่ปีถ้าไม่มีเรื่องงานที่ต้องกราบหลวงพ่อ พระเกาะก็เข้ามากราบ ในวาระวันคล้ายวันเกิดของท่าน
วันหนึ่งเมื่อพระเกรุมังรออยู่ภายนอกนอกาน เหนหลวงพ่อเปิดประตูก็อถาม "ผมขอกราบถวายปัจจัยบูชาธรรมหลวงพ่อในวันคล้ายวันเกิดของผมครับ"
"ปีนี้ท่านอายุเท่าไรแล้ว"
พอได้รับคำตอบ หลวงพ่อก็ถามต่อ "ท่านอยู่สร้างบาลมีภิกษ์แล้ว" คำตอบที่ตอบมาอาจจะมากกว่ามสามสิบปี
"แล้วอยู่บ้านก็บี" คำนี้คำตอบส่วนใหญ่น้อยกว่าที่มาอยู่สร้างบารมีร่วมกันกับหลวงพ่อ
การอยู่สร้างบารมีร่วมกันมาได้อย่างนี้ เป็นเรื่องที่ไม่เกิดขึ้นได้ง่าย แล้วหลวงพ่อก็ถามว่า "เราเป็นกันอย่างวุฒิ"
หลังจากพูดคุยกันได้สักพัก หลวงพ่อก็ให้พร แต่พริหลวงพ่อมอบให้เป็นพรพิเศษที่มอบให้ผู้คุ้นเคยโดยเฉพาะ มีจุดประสงค์ให้นำไปปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
"ท่าน!" หลวงพ่อเรียกอธิพระเกรตแล้ว ก็แผ่พรมเตรียมให้พร