ข้อความต้นฉบับในหน้า
ปกิณกธรรม
เรื่อง : พระมหาเสถียร สุวณฺณฐิโต ป.ธ. ๙ / พระมหาวิริยะ ธมฺมสารี ป.ธ. ๙
outrym
เกิดเป็นลูกผู้ชาย
ต้องบวชเป็นลูกพระพุทธเจ้า
“เอหิ ภิกขุ สวากขาโต ธมฺโม จร พรหมจริย์ สมมา ทุกขสฺส อนุตกิริยาย
เธอจงเป็นภิกษุมาเถิด ธรรมอันเรากล่าวดีแล้ว เธอจงประพฤติพรหมจรรย์เพื่อทำที่สุดแห่ง
กองทุกข์โดยชอบเถิด”
คำว่า ภิกษุ คือ ผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร เป็นผู้
มีปกติขออย่างอริยะ เรียกว่าบิณฑบาตเพื่อโปรดสัตว์
ท่านไปในสถานะของผู้ให้บุญไปให้ความเป็นสิริมงคล
แก่ญาติโยม ให้มีโอกาสทำทาน ได้สละความตระหนี่
ออกจากใจ เพราะพระท่านมีความดี ความบริสุทธิ์
จึงเป็นเนื้อนาบุญให้กับญาติโยม เวลาออกบิณฑบาต
ก็เดินทอดสายตาลงต่ำ มีกิริยาอาการที่สงบสำรวม
น่าเลื่อมใส
คนที่ทำทานกับพระภิกษุเพราะรู้คุณค่าของ
บุญ และมีความเลื่อมใส เห็นกิริยาอาการที่สงบสำรวม
จึงบังเกิดศรัทธาอยากทำบุญ ต่างจากการให้กับคน
ขอทานที่เที่ยวขอชาวบ้าน เนื่องจากทุพพลภาพ
ลำาบากยากจน บางคนขาขาด ตาบอด การให้
อย่างนี้เพราะสงสาร แต่ให้กับพระเพราะความเลื่อมใส
ให้ทานกับคนยากไร้เพราะความเมตตา แต่ให้ทาน
กับพระสงฆ์เพราะความศรัทธา ฉะนั้น ผลบุญที่เกิด
จากการสงเคราะห์คนขอทาน จึงแตกต่างจากการ
ถวายทานกับภิกษุเหมือนแสงหิ่งห้อยไม่อาจเทียบได้
กับแสงตะวัน เพราะดวงบุญและคุณธรรมภายในของ
ผู้รับทานแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
แม้บวชช่วงสั้น แต่บุญตามส่งผลยาวนาน
ผลบุญจากการบวชพระ แม้จะบวชไม่นาน
ขอเพียงตั้งใจประพฤติพรหมจรรย์ให้บริสุทธิ์ บุญนั้น
ก็สามารถยอยกผู้บวชให้บังเกิดในสุคติภูมิตลอดไป
หากไปเกิดในสวรรค์ก็จะเป็นเทพผู้มีอานุภาพมาก